Mariner of the Seas : 4 วัน 3 คืน สิงคโปร์-มาเลเซีย
Mariner of the Seas : 4 วัน 3 คืน สิงคโปร์-มาเลเซีย
เรือสำราญเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝัน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะยังเป็นสิ่งใหม่ในตลาดเมืองไทย เชื่อว่ารีวิวนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้หลายๆ คนตัดสินใจได้เร็วขึ้น สำหรับลุงเด้งป้าไก่ การเดินทางไปกับ Mariner of the Seas ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ยังคงความหรูหรา สะดวกสบายพร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกสิ่ง
อาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง กิจกรรมเครื่องเล่น สระว่ายน้ำ การแสดงโชว์ โรงละคร โรงภาพยนต์ คาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ ทุกอย่่างฟรี ตลอดการเดินทาง
โปรแกรมการเดินทาง
Day 01 Singapore เรือออกเดินทาง 4:30 pm (Check-in ได้ตั้งแต่เวลา 11:30 am -3:30 pm)
Day 02 Peneng, Malaysia เรือเทียบท่า เวลา 5:00 pm / กลับมาขึ้นเรือก่อนเวลา 11:30
Day 03 ล่องทะเล - กิจกรรมภายในเรือตลอดวัน
Day 04 Singapore เรือจอดที่ท่าเรือเวลา 08:00 (Check-out ตามหมายกำหนดการ)
โปรแกรมเรือสำราญราคาพิเศษ https://goo.gl/wtd7VMDAY 01 : โปรแกรมการเดินทาง สิงคโปร์-ปีนัง 4 วัน 3 กับเรือสำราญ Mariner of the Seas ในครั้งนี้ เริ่มต้นที่ Marina Bay Cruise Centre Singapore ตามหมายกำหนดการ ท่าเรือ Marina Bay Cruise Centre Singapore จะเปิดให้ผู้โดยสานทำการ Check-in ได้ตั้งแต่เวลา 11:30 am -3:30 pm
แนะนำ - เราควรจะต้องถึงท่าเรือไม่เกิน 3:00 pm เพราะต้องผ่านพิธีการ Check-in / โหลดกระเป๋าเดินทางไปในเรือ (หรือจะลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในเรือเองก็ได้) ตามสะดวก / ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง / X-ray กระเป๋า
Check-in ขั้นตอนนี้สำคัญ เราต้องมารับบัตร Seapass® และพนักงานจะถามว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบนเรือจะชำระเป็นเงินสด หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต
แนะนำ - เลือกชำระผ่านบัตรเครดิต เพราะวันสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากเรือ เราสามารถเดินออกไปได้เลยไม่ต้องมาเคลียร์บัญชีค่าใช้จ่าย ระบบจะทำการตัดบัญชีจากบัตรเครดิตโดยอัตโนมัติ (สะดวกที่สุด)
ขั้นตอนต่อมาคือ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นก็เดินเข้าเรือสำราญ Mariner of the Seas
ก่อนเข้าเรือจะมีด่านสุดท้ายคือ แสกน Seapass® พร้อมกันนั้น จ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทาง (Passport) ของเราไว้ตลอดการเดินทาง และจะคืนให้ในวันสุดท้าย
Mariner of the Seas - Royal Caribbean - Spherical Image - RICOH THETA
ห้องพักของลุงเด้ง ป้าไก่ในทริปนี้คือ Oceanview Stateroom with Balcony (ห้องพักที่มีระเบียง) ออกไปนั่งชมความงามของท้องทะเลได้ตลอดวัน ขนาดของห้องกว้างขวาง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เมือเปิดประตูห้องเข้ามา ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือ ด้านขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้า - ถัดมาจะเป็นส่วนของโซฟาสำหรับ 2 คน โต๊ะกลาง และ โต๊ะทำงาน - จากนั้นจะเป็นส่วนของเตียงนอน (เลือกได้ว่าจะเป็นเตียงเดี่ยว หรือ เตียงคู่) และท้ายสุดจะเป็นระเบียงที่สามารถเดินออกไปชมวิวได้ มีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งชมวิว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ทีวี แอร์ ตู้เย็น โทรศัพท์ ที่เป่าผม ผ้าเช็ดตัว สบู่เหลว แชมพู เครื่องทำน้ำร้อน ชา กาแฟ หมายเหตุ ... ภายในห้องพัก และระเบียง ห้ามสูบบุหรี่
จุดนี้เรามาทำความรู้จักกับบัตร Seapass® กันก่อนครับ บัตรใบนี้ต้องพกติดตัวตลอดเวลาที่อยู่บนเรือนะครับ ข้อมูลที่สำคัญในบัตร DINING ROOM : Top Hat and Tails - ชื่อห้องอาหารค่ำ อยู่ชั้น DK4 (ชั้น 3) SEATING : 08:00 เวลาในการทานอาหารค่ำ TABEL : หมายเลขโต๊ะ 472 หมายเลข B11 คือ บริเวณจุดนัดพบเพื่อทำ Mandatory Guest Assembly Drill และในกรณีฉุกเฉิน ทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่จุดตามหมายเลขบัตร เราจะทำ Mandatory Guest Assembly Drill 1 ครั้ง ก่อนออกเดินทาง และทุกคนต้องมายังจุดนี้ตามเวลานัดหมาย (เหมือนกันการชมการสาธิต หากเกิดกรณีฉุกเฉินบนเครื่องบิน) 3:30 pm ผู้โดยสารทุกคนควรจะอยู่บนเรือทุกคนแล้ว 4:00 pm ทุกอย่างบนเรือจะหยุดให้บริการ ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญ (ที่สุด) คือ Mandatory Guest Assembly Drill - ผู้โดยสารทุกคน (เน้นว่าทุกคน) จะต้องนำ Seapass® ติดตัว และออกจากห้องพักมารวมตัวกันที่ Deck 4 และ 5 เพื่ออบรมการใช้เสื้อชูชีพ กลุ่มของลุงเด้ง ป้าไก่ ต้องมารวมตัวกันที่ ตำแหน่ง B11 ถ้าเราไม่ทราบกำหนดการ ก็มีพนักงานตรวจสอบแต่ละชั้น และแจ้งให้ไปรวมตัวกัน หรือถ้าเราอยู่ในห้องก็จะมีพนักงานมาเคาะประตูถึงให้ห้อง ผู้โดยสารทุกคนต้องมารวมตัวกันที่ Deck 4 และ 5 เพื่อรวมตัวและอบรมการใช้เสื้อชูชีพ (ช่วงนี้ห้ามถ่ายรูป ห้ามใช้มือถือ ทุกคนต้องตั้งใจฟัง)Mariner of the Seas - Royal Caribbean - Spherical Image - RICOH THETA
4:30 pm เรือเริ่มออกเดินทางอย่างช้าๆ สู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลุงเด้งป้าไก่ เดินมาที่ดาดฟ้า เพื่อบอกลาสิงคโปร์ พร้อมเดินทางสู่ปีนัง ช่วงเวลาหลังจากนี้คือจุดเริ่มต้นความสุขบนเรือสำราญลำนี้ Mariner of the Seas
บรรยากาศบนชั้น 11 และ 12 คือสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด สระว่ายน้ำ ลานกิจกรรม จุดชมวิว เก้าอี้อาบแดด จอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ บางช่วงเวลาจะมี DJ มาเปิดเพลงแดนซ์มันๆ แบบ NONSTOP
ชวนกันมาแดนซ์ให้สุดเหวี่ยงกันไปเลย
ใครที่ชอบออกกำลังกายตอนเช้า ก็มีลู่วิ่งพร้อมวิวกลางมหาสมุทร บรรยากาศแบบนี้หาได้บนเรือสำราญระดับหรูเท่านั้น
สระว่ายน้ำส่วนนี้มี 2 จุด และยังมีอ่างจากุซซี่อีก 3 จุด ด้านหลังยังมีสระว่างน้ำอีก 1 แห่ง
Mariner of the Seas - Royal Caribbean - Spherical Image - RICOH THETA
จุดเด่นของเรือ Mariner of the Seas คือ Royal Promenade ถนน Shopping ภายในตัวเรือตั้งอยู่ที่ชั้น 5 เป็นถนนที่มีร้านค้าปลอดภาษี และ Cafe Promenade ที่ให้บริการอาหารว่าง แซนวิช พิซซ่า เค้ก คุ๊กกี้ เยลลี่ และอีกหลากหลายชนิดสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามช่วงเวลา พร้อมชากาแฟ ตลอด 24 ชั่วโมง (บริการฟรีตลอดการเดินทาง)
ตัวอย่างของว่าง ที่ให้บริการ "ฟรี"ตลอด 24 ชั่วโมง - พิซซ่าอร่อยที่สุด - อาหารแต่ละชนิดหมุนเวียนไปตามช่วงเวลา แต่พิซซ่าเป็นเมนูหลักมีตลอดเวลา (สามารถนำไปกินที่ห้องพักได้) 5:00 pm มีการแสดง DreamWork Move It, Move it Parade ที่ Royal Promenade ชั้น 5 ช่วงเย็น : ร้านค้าปลอดภาษีจะเปิดขายของเมื่อเรือแล่นออกไปยังน่านน้ำสากลMariner of the Seas - Royal Caribbean - Spherical Image - RICOH THETA
ช่วงเวลาอาหารเย็น จะแบ่งเป็น 2 รอบ เนื่องจาก มีผู้โดยสารมากถึง 3000 คน รอบแรก 5:30 pm รอบที่สอง 8:00 pm
ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้รอบ 2 ทุ่ม ตามที่แจ้งไว้ใน Seapass®
รายการอาหารเย็นเป็นแบบ 3 Course Dinner Menu
ประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อย / อาหารจานหลัก / ของหวาน
จากในเมนู ก็มีตัวเลือกมากมายครับ
อาหารเรียกน้ำย่อย มี 6 ตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็น สลัด หรือ ซุป
อาหารจานหลัก มี 11 รายการ
ของหวาน 7 ชนิด พร้อมชา กาแฟ
9:30 pm โชว์วันแรก หลังอาหาร เรามาชม Welcome Aboard Headliner Showtime โชว์ความสามารถในการร้องเพลงของ Tamara Guo (มีเพียง 1 รอบเท่านั้นตลอดการเดินทาง) ห้ามพลาดเด็ดขาว เพราะฉนั้นเราจะต้องดู โปรแกรมต่างๆ ในเอกสาร Cruise Compass ให้ดี
ก่อนนอนวันนี้ ลุงเด้งป้าไก่ เดินผ่าน Cafe Promenade ที่ให้บริการอาหารว่าง แซนวิช พิซซ่า เค้ก คุ๊กกี้ เยลลี่ พร้อมชากาแฟ ตลอด 24 ชั่วโมง จัดไปพิซซ่าคนละ 1 ชิ้น 555
อาหารเช้าสำหรับวันพรุ่งนี้ : เราเลือกได้ว่าจะไปกินที่ห้องอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ หรือ สั่งอาหารเช้าให้มาเสิร์ฟที่ห้องนอน
ลุงเด้งป้าไก่เลือกให้นำมาเสิร์ฟที่ห้องนอน วิธีการคือให้เรานำใบ "breakfast menu" ที่ให้ไว้ในห้องนอน ระบุช่วงเวลาที่เราต้องหารให้นำอาหารเช้ามาให้ เริ่มตั้งแต่ 6:30 am - 10:00 am จากนั้นก็ทำเครื่องหมายในสิ่งที่เราต้องการเช่น แฮม ใส้กรอก ไข่ ขนมปัง ซีเรียล น้ำผลไม้ ผลไม้ ชา กาแฟ (จะสั่งอะไร กี่อย่างได้ทั้งหมด จำนวนเท่าไหร่ก็ได้) แต่ก็ควรจะสั่งแต่พออิ่มนะ
หลังจากที่เลือกสิ่งที่เราต้องการได้แล้วก็นำไปแขวนไว้ที่หน้าประตูห้องก่อน ตี 3 จากนั้นจะมีพนักงานมาเก็บเอกสารไปจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นอย่างดี แล้วนำมาเสิร์ฟให้ตามช่วงเวลาที่เรากำหนด
Goodnight : ราตรีสวัสดิ์ กิจกรรมบนเรือจริงๆ แล้วมีมากกว่ามีรีวิวให้ทราบ ระหว่างวันจะมีกิจกรรมการแสดงเล็กๆ น้อยๆ อยู่ตามชั้นต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลา เรียกได้ว่าเราไม่สามารถไปได้ครบทั้งหมด
Day 02 : วันนี้เราไม่ต้องรีบตื่น เพราะเราได้สั่งอาหารเช้าให้มาเสิร์ฟถึงที่ห้องนอน โปรแกรมวันนี้คือ ช่วงเช้า-บ่าย เราจะเดินเล่นบนเรือ แล้วช่วงเย็นๆ เรือเราจะไปจอดที่ Peneng, Malaysia เรือเทียบท่า เวลา 5:00 pm / กลับมาขึ้นเรือก่อนเวลา 11:30 pm
อาหารเช้ามาเสิร์ฟตามช่วงเวลาที่เราต้องการ... พนักงานมาเคาะประตู แล้วนำอาหารเช้าใส่ถาดใหญ่มาให้ เราก็นำมาจัดว่างที่ระเบียง กินไปพร้อมชมวิวกลางมหาสมุทรไปตลอดทาง เป็นอีก 1 ประสบการณ์ที่ประทับใจมากๆ
Mariner of the Seas - Royal Caribbean - Spherical Image - RICOH THETA
ช่วงสายๆ เราเดินไปสำรวจส่วนอื่นๆ ของเรือที่เมื่อวานเรายังเดินไปไม่ถึง ดาดฟ้าท้ายเรือ มีสนามกีฬาขนาดใหญ่ สนามหญ้าเทียมกรีนพัตต์กอล์ฟ สนามบาสเก็ตบอล หน้าผาจำลอง
ของว่างฟรี : Cafe Promenade ชั้น 5 ให้บริการอาหารว่าง พร้อมชากาแฟ ตลอด 24 ชั่วโมง
Dog House แจกฟรี Hot Dog
ที่ชั้น 11 เวลา 11:30 am - 3:30 pm / 4:45 pm - 6:30 pm (ไม่เอาขนมปังก็ได้)
Arctic Zone แจกฟรี ไอศครีม frozen yogurt
ที่ชั้น 11 เวลา 11:30 am - 3:30 pm / 4:45
บนเรือ Mariner of the Seas ลำนี้ยังมี Chapel บนเรือ เป็นโบสถ์เล็กๆ สามารถประกอบพิธิแต่งงานได้ โดยกัปตันจะเป็นผู้ทำพิธีแต่งงาน กัปตันได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้สามารถประกอบพิธีแทนบาทหลวงได้อย่างถูกต้อง
ห้องอาหาร Windjammer cafe เป็นห้องอาหารแบบ buffet ขนาดใหญ่ ให้บริการตลอดทั้งวัน
อาหารเช้า : 7:00 am - 10:30 am
อาหารกลางวัน : 11:30 am - 3:30 pm
อาหารเย็น : 6:30 pm - 9:00 pm
อาหารค่ำ : 10:30 pm - midnight (บริการอาหารว่าง)
อาหารกลางวันเป็นแบบ Buffet นานาชาติ อาหารมีให้เลือกกินหลายร้อยรายการ เลือกชิมกันไม่หมด
5:00 pm เรือสำราญลำนี้เดินทางไปถึงท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย ณ จุดนี้ เราเลือกที่จะพักอยู่บนเรือ / ออกมาเดินเที่ยวเมืองปีนังด้วยตัวเอง / ซื้อ PACKAGE TOUR จากเคาน์เตอร์ท่องเที่ยวบน เรือ ลุงเด้งป้าไก่ เลือกซื้อ Package ทัวร์ PN17 Heritage tour with Local Product Shopping ราคาคนละ US$ 39.75 เหรียญ (4 ชั่วโมง)
รายละเอียดการนัดหมายจะระบุอยู่ในบัตร - เราจะต้องไปรวมตัวกันเวลา 5:15 pm ที่ห้อง The Savoy Theatre ชั้น 3 จากนั้นก็จะเดินทางออกจากเรือไปเป็นกลุ่ม
รวมตัวอีกครั้งที่ท่าเรือปีนัง กลุ่มของลุงเด้งป้าไก่ อยู่หลายเลข 6 เมื่อสมาชิกครบแล้วก็นั่งรถบัส ออกเดินทางไปตามจุดต่างๆ ตามที่ระบุในโปรแกรม
สถานที่แรกที่เราไปคือ วัดพม่าในเมืองปีนัง
จากนั้นก็พาไปซื้อช้อกโลแลต แล้วก็ร้านขายขนมพื้นเมือง จากนั้นมีเวลาให้อีก 30 นาที ลุงเด้งป้าไก่ เลือกเดินมากินอาหารเย็นในตลาดแถวๆ นั้น ราคาอาหารในปีนังไม่แพง พอๆ กับที่เมืองไทยราคาเริ่มต้นจานละประมาณ 50 บาทขั้นไป
Pinang Peranakan Mansion บ้านของชนชั้นสูง
สุดท้ายเรามาชมความงามของ Majestic Cheah Kongsi
22:00 เรากลับมาขึ้นเรือ (ซื้อทัวร์ตรงกับทางเรือ มีข้อดีคือ ถ้าเรามาเลยเวลานัดหมาย ไม่ว่าจะด้วยปัญหาอะไรก็แล้วแต่... เรือยังคงจอดรอจนกว่าเราจะมา) แต่ถ้าเที่ยวเองแล้วมาช้า เรือไม่รอนะครับ 555
วันนี้เป็นวันที่ผู้โดยสารออกไปเที่ยวในปีนัง เพราะฉนั้น อาหารเย็นวันนี้เสิร์ฟกันหนักๆ ยาวๆ ไปถึงเที่ยงคืนกันเลย (กลับมาจากเที่ยวข้างนอก ก็ยังมีอาหารมื้อคำให้อิ่มหน่ำสำราญแบบไม่ขาดตกบกพร่อง)
ภาพบางส่วนของอาหารค่ำในวันนี้ ... GOOD NIGHT ราตรีสวัสดิ์ พบกันพรุ่งนี้กับ DAY 03
Day 03 : วันนี้ตื่นมาพร้อมกับพลังอันเหลือมากมาย เพราะ 2 วันที่ผ่านมามีแต่เรื่องกิน เช้านี้เลยต้องมาวิ่งออกกำลังกายกันบนดาดฟ้าเรือ
แล้วมาต่อที่ห้องออกกำลังกาย ในส่วนนี้มีเครื่องออกกำลังกายมากกว่า 50 เครื่อง ทั้งลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน เครื่องยกน้ำหนัก และอื่นๆ
บนเรือสำราญของเราลำนี้ Mariner of the Seas มีอาหารบริการทุกวัน ทุกมื้อ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็จะมีร้านพิเศษ สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเปลี่ยนบนนยากาศ โดยจ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อย
วันนี้มื้อเช้าเราไม่ได้กิน เก็บท้องไว้จัดเมนูพิเศษ ที่ห้องอาหาร Chop Grill แนะนำให้จองล่วงหน้า ส่วนนี้เราต้องจ่ายเพิ่ม US$ 29 เหรียญ สำหรับ Buffet Hot Pot กลางมหาสมุทร (Hot Pot on the high seas)
จุดเด่นอยู่ที่ กุ้งสดตัวใหญ่ สั่งได้ไม่จำกัด ใครชอบกินกุ้งสดตรงนี้คุ้มแล้ว นอกนั้นก็จะมี เนื้อวัว เนื้อแกะ แซลม่อน กุ้งสดเล็ก ทะเลรวม ลูกชิ้น บะหมี่ เส้นหมี่ ผักสดและเห็ด นานาชนิด ปิดท้ายด้วยเค้ก ของหวาน และผลไม้
2:30 pm ลุงเด้ง ป้าไก่ มาที่ Studio B ชั้น 3 เพิ่มเตรียมตัวเข้าชมการแสดง Ice Inder The Big Top การแสดงเริ่มเวลา 3:00 pm เป็นหนึ่งในการแสดงลีลาประกอบเพลงบนลานสเก็ตน้ำแข็ง การแสดงชุดนี้มีตั้งแต่วันแรก (Day 01) 2 รอบ / และวันที่ 3 (Day 03) อีก 2 รอบ ผู้โดยสารดูได้แค่คนละ 1 รอบเท่านั้น ต้องนำบัตร Seapass® ติดตัวมาด้วยเพราะเจ้าหน้าที่จะทำเครื่องหมายบนบัตรว่าเราเข้าชมแล้ว
4:30 - 5:00 เราไปร่วมงาน Captain's Farewell เป็นเสมือนการเลี้ยงอำลา เพราะวันพรุ่งนี้เราต้องทำการ Check-out กันแล้ว ในงานนี้แชมเปญ และ พั้นช์ผลไม้เย็นๆ เสิร์ฟไม่จำกัดให้กับผู้โดยสารทุกคน พร้อมดนตรีบรรเลงตลอดงาน
หลังจากนั้นเราไปนั่งเล่นกันที่ Johnny Rocket (The original Hamburger) เป็นร้านอาหารที่เราต้องจ่ายเพิ่มอีกเพียง US$ 6.95 (ประมาณ 250 บาท) ราคาต่อหัวนะครับ เพราะมันคือ BUFFET
คิดเป็นเงินไทยคือ 250 บาท เราจะสั่ง HAMBURGER หรือ HOTDOG กี่ชิ้นก็ได้ ใครชอบของว่าง ของทอด อะไรก็ได้... จานก็ได้ ไม่จำกัด สุดคุ้มเลยครับ... แต่น้ำอัดลมสั่งได้ 1 แก้วเท่านั้น
ในเมนูมี ราเมนที่เราสามารถสั่งได้ไม่จำกัดเช่นกัน (แต่ไม่อร่อย) / ราคานี้ไม่รวม Smoothly
อาหารเย็นเริ่มต้น เวลา 8:00 pm วันนี้เป็นอาหารเย็นมื้อสุดท้ายบนเรือลำนี้ มีพนักงานต้อนรับมาร้องเพลงอำลา เป็นที่น่าประทับใจ และให้ความรู้สึกที่ดีมาก
โชว์สุดท้ายอีกเช่นกัน : Farewell Showtime การแสดงมีชื่อว่า CENTER STAGE จัดขึ้น 2 รอบ เวลา 7:00 pm และ 9:00 pm เป็นการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้อง 4 คน พร้อมทีมงาน ร่วมกับวง The Mariner of the Seas Orchestra & Musicians
วันนี้เราจะต้องไปรับคืนหนังสือเดินทาง เวลา 2:00 pm - 2:45 pm ที่ห้อง Sound of Music Dinging Room โดยจะต้องทำบัตร SeaPass ติดตัวไปด้วย
ก่อนเข้านอนลุงเด้งป้าไก่ กลับมาที่ห้อง เพื่อศึกษาเอกสารฉบับนี้ เนื่อจากพรุ่งนี้เช้าเราจะต้องเตรียมตัว Check-out โดยมีขั้นตอนตามนี้
- นำแถบ Number Tag หมายเลข 39 คิดไว้ที่มือจับกระเป๋าเดินทาง และนำกระเป๋าเดินทางมาวางไว้ที่หน้าห้องในช่วงเวลา 7:00 pm - 10:00 pm จะมีพนักงานมานำกระเป๋าไปเก็บ และจัดส่งไปที่ท่าเรือในวันรุ่งขึ้น / ในกรณีที่ต้องการจำนำกระเป๋าเดินทางออกไปด้วยตัวเองสามารถกระเป๋าไว้ในห้องพักแล้วตอนเช้าก็นำออกตัวตัวเอง
- ชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นบนเรือ ถ้าเราผู้บัตรเครดิตไว้กับ SeaPass ก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะค่าใช้จ่ายจะถูกตัดยอดอัตโนมัติ ในกรณีที่ชำระเป็นเงินสดต้องไปติดต่อที่ Guest Service ชั้น 5 ก่อนเวลา 11:00 pm เพื่อชำระค่าใช้จ่าย
- ขั้นตอนการออกจากเรือ ให้สังเกตที่ Number Tag หมายเลข 39 หมายถึงเราจะออกจากเรือในเวลา 10:40 โดยไปรวมตัวกันที่ ห้อง Savoy Theater ชั้น3 และเดินออกจากเรือตามคิว ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน
- ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร
- นั่งรถจากท่าเรือเข้าเมือง...ท่องเที่ยวในเมืองสิงคโปร์ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
Day 04 : ลุงเด้งป้าไก่ ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้า เพราะเราคิวในการออกจากเรือของเราคือ 10:40 เช้านี้ก็สบายๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ เดินไปกินอาหารเช้า แล้วกลับมาถ่ายรูปเล่นยังมีเวลาพอแบบสบายๆ
เวลา 10:25 เราไปรวมตัวกันที่นัดหมาย Number Tag หมายเลข 39 เราจะออกจากเรือในเวลา 10:40 โดยไปรวมตัวกันที่ ห้อง Savoy Theater ชั้น3 และเดินออกจากเรือตามคิว ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน
วันสุดท้ายนี้ เรือมาจอดเทียบที่ ท่าเรือSingapore 08:00 กำหนดการของเราคือออกจากเรือเป็นคิวที่ 39 ตามเวลานัดหมายที่ 10:40 ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็เป็นอันเรียบร้อย
จบทริปเรือสำราญ Mariner of the Seas : 4 วัน 3 คืน สิงคโปร์-มาเลเซีย อย่างสมบูรณ์แบบ
โปรแกรมเรือสำราญราคาพิเศษ https://goo.gl/wtd7VM
+++ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09:00 - 18:00 น.
โทร. 090 909 0279 / 085 378 7700
Line ID : SingaporeFanClub
e-mail : ni@singaporefanclub.com
website : www.singaporefanclub.com