เที่ยวอังกฤษ Day 04 : Oxford ออกซ์ฟอร์ด เมืองแห่งการเรียนรู้

Oxford ออกซ์ฟอร์ด... “ เมืองแห่งการศึกษา ” และเป็นที่ตั้งของ University of Oxford มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter หลังภาคต่อที่โด่งดังที่สุดในยุค 2000

วันนี้ ลุงเด้งป้าไก่ มีเวลา 1 วันเต็มๆ ที่จะเดินท่องเที่ยวใน Oxford ออกซ์ฟอร์ด

ไฮไลท์ของวันนี้
- Covered Market, Oxford
- Carfax, Oxford
- Radcliffe Camera
- Bridge of Sighs
- Bodleian Library
- Divinity School, Oxford
- Nando's ไก่ย่างโปรตุเกส สุดฮิตในอังกฤษ

เริ่มต้นเช้าวันนี้ด้วยอากาศที่สดใส... เที่ยว Oxford ครั้งนี้ของ ลงุเด้งป้าไก่ เหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter และเป็นศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมสมัยกลาง กอธิค และ นีโอคลาสสิก ที่เราพบเห็นได้ตลอดทางเดิน ... การเดินทางวันนี้ เราเดินเที่ยวครับ ไม่ได้นั่งรถอะไร เมืองนี้เดินเทียวได้ทั้งวัน

เช้านี้... ลุงเด้งป้าไก่ เริ่มต้นที่ Covered Market ตลาดกลางใจเมือง Oxford เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 am - 5.30 pm (วันอาทิตย์ เปิด 10 โมงเช้า - 4 โมงเย็น)

ตลอด 2 วันที่พักอยู่ที่ Oxford ลุงเด้งป้าไก่ มากินอาหารเช้าที่ Covered Market อร่อย ไม่แพง เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ในย่านนี้ ตลาดนี้ไม่ใหญ่มาก เน้นร้านอาหารแบบท้องถิ่น ร้านขายขนมปังอบ เค้ก ของหวาน ผลไม้ เนื้อสัตว์ต่างๆ และร้านทำกุญแจ

อาหารเช้าวันนี้... Sofi de France Café ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใน Covered Market เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า เรื่อยไปจนถึง 5 โมงเย็น (วันอาทิตย์เปิด 10 โมงนะครับ)

ลุงเด้งป้าไก่ มาตั้งแต่ 8 โมงเช้า ร้าน Sofi de France Café เปิดก่อนร้านอื่นๆ (ร้านอื่นๆ ยังจัดร้านไม่เสร็จเลยครับ)

Big Breakfast ... อีกแล้ว กินมันทุกเช้า ตั้งแต่ Liverpool ยัน Oxford ชุดนี้ถูกมาก £ 6.5 เท่านั้น (รวมชา กาแฟ ด้วยนะ)

หลากหลายมากๆ ในชุดประกอบด้วย Bacon, 2 Sauages, 2 Fried eggs, Hash Brown, Beans, Tomatoes, Muchrooms, Black Pudding & Toast ชุดนี้บอกเลย อิ่มมากๆ

ชุดอาหารเพื่อสุขภาพ... Avocado Toast with fried egg ราคา £ 4.95 ชุดนี้รวมชา กาแฟ เช่นกัน

Sofi de France Café ชื่อร้านบอกถึงความเป็นฝรั่งเศส ก็เลยสั่ง ครัวซองชีสแฮม มาเพิ่มอีก 1 ชิ้น

โอ้โห... อร่อยจริงๆ เนื้อแป้งฟูกรอบ ด้านในนุ่มหอมเนยสด ไม่เสียชื่อร้านเลยครับ

อาหารเช้าที่ Covered Market เราเดินอีก 3 นาที ก็ถึง Carfax, Oxford (ตึกด้านซ้ายมือ ที่มีนาฬิกาบอกเวลา อยู่หน้าอาคาร)

St Martin's Tower ที่นิยมกันเรียกว่า "Carfax Tower" ตั้งอยู่สี่แยกใจกลางเมือง เป็นจุดเชื่อมต่อของถนน 4 สายหลักของเมืองนี้  ถนน St Aldate's (south), Cornmarket Street (north), Queen Street (west) and the High Street (east) in Oxford, England.

St. Martin's Church สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 และสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปีค.ศ. 1818 จากนั้นในปี ค.ศ. 1896 เมืองมีความเจริญ จำเป็นต้องมีการสร้างถนนในการสัญจร St. Martin's Church จึงถูกทำลายลง เหลือเพียง St Martin's Tower ต่อมาเรียกว่า "Carfax Tower"

บริเวณหน้าอาคารด้านตะวันออก จะมีนาฬิกา และทุกๆ 15 นาที จะมี ตุ๊กตา "Quarter Boys" ตีระฆังบอกเวลา

Carfax Tower เราขึ้นชมวิวรอบเมืองแบบ 360 องศา เพียงจ่ายค่าเข้าชมเพียง £ 2 เท่านั้น มาแล้วขึ้นเถอะครับ ทางขึ้นแคบมาก... หรือว่าคนอังกฤษในอดีตตัวเล็ก!!!

Carfax Tower ไม่ใหญ่มาก ทางขึ้นเป็นบันไดวน ค่อนข้างแคบ แต่วิวด้านบน สวยมาก เมื่อเทียบกับค่าเข้าชมเพียง £ 2 ขึ้นมาเถอะคุ้มมาก

ด้านบนนี้เราจะเห็น university church of st Mary the virgin (ตึกสูงที่อยู่ใจกลางภาพ) ช่วงบ่ายลุงเด้งป้าไก่ จะไปชมวิวบนตึกนี้กันครับ

โดมสวยๆ สไตล์ neo-classical คือ Radcliffe Camera เดี๋ยวเราจะไปถ่ายรูปกันที่นี่ เป็นอาคารหนึ่งที่สวยที่สุดของเมือง oxford มีภาพนี้อยู่ในเอกสาร ท่องเที่ยวออกซ์ฟอร์ด แทบทุกชนิด

สี่แยกใจกลางเมืองที่มองลงมาจากชั้นบนสุดของ Carfax Tower

ลุงเด้งป้าไก่ ใช่เวลาอยู่บน Carfax Tower ถ่ายรูปไป ชมวิวไป เผลอแป๊ปเดียว 1 ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก

สถานที่ต่อไป เดินประมาณ 10 นาที ก็มาถึง Radcliffe Camera

อาคารทรงสวยๆ Radcliffe Camera สไตล์ neo-classical เริ่มก่อสร้างวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1737 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1748 และเปิดเป็นทางการในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1749 (ตรงกับวันสงกรานต์ของไทยเลยนะ)

Radcliffe Camera : เพื่อนๆ ลองเดินหามุมถ่ายรูปดูนะครับ มีหลายมุมที่สวยมาก เสียดายวันที่ลุงเด้งป้าไก่ ไปเข้าไปด้านในไม่ได้ครับ

University Church of St Mary the Virgin อยู่ติดกับ Radcliffe Camera

University Church of St Mary the Virgin เป็นโบสถ์แห่งแรกที่ปรับเป็นอาคารเรียนของ Oxford University ด้านบนของอาคารสามารถขึ้นมาชมวิวได้ เสียค่าเข้าชมเพียง £ 2

 นักท่องเที่ยวจะขึ้นชมจะต้องมานั่งเข้าคิวรอ... เพราะพื้นที่ด้านบนเล็กมาก ต้องขึ้นเป็นรอบๆ

วิธีการคือ... สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะขึ้นชมต้องนั่งรอจุดไหน (หรือขึ้นชมได้เลย ถ้านักท่องเที่ยวน้อย) จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาจัดคิว ชำระเงิน แล้วขึ้นชม เราใช้เวลาด้านบนนานแค่ไหนก็ได้ ระหว่างทางขึ้นชมจะมีโซนบอกเล่าประวัติเล็กๆ จากนั้นก็ขึ้นบันไดวน (แคบๆ) เพื่อนำไปสู่ด้านบน 

ด้านบนไม่สามารถนำ ขาตั้งกล้อง หรือกระเป๋ากล้องสะพายหลังใบใหญ่ๆ ขึ้นได้ เพราะบันไดวน แคบมาก (ฝากไว้ที่แผนกซื้อบัตร)

ระเบียงด้านบนที่เดินชมวิว ก็แคบๆ ประมาณเดินคนเดียวก็เต็มแล้ว ถ้าเดินสวนกันต้องสับหลีกกันตามมุมต่างๆ

วิวสวยๆ จากหอคอย University Church of St Mary the Virgin สวยคุ้มค่าในราคาเพียง £ 2

ภาพนี้ Radcliffe Camera ถ่ายจาก ทางเข้าด้านหลัง University Church of St Mary the Virgin (ช่วงเช้าแดดจะอาบตัวอาคาร โดยเด่นมาก)

Hertford Bridge (Bridge of Sighs)

ถัดจาก Radcliffe Camera จะมีสะพาน Hertford Bridge ที่เชื่อมระหว่าง Hertford College ตึกเก่า และ ตึกใหม่ เพื่อให้เดินข้ามถึงกันได้ แต่คนชอบเรียกสะพานนี้ว่า Bridge of Sighs

 ที่คนทั่วไปเรียก Hertford Bridge ว่า Bridge of Sighs เพราะเป็นสะพานเชือมตึก 2 ตึก เพื่อให้นักศึกษาเดินข้ามไปเรียนหนังสือ แต่ Bridge of Sigh ที่ Venice มีไว้ให้นักโทษเดินเข้าคุกตลอดชีวิต มีหน้าต่างบานเล็กๆ ให้มองเห็นวิวเป็นครั้งสุดท้าย

แรงบันดาลใจด้านสถาปัตยกรรมของ Hertford Bridge น่าจะมาจาก สะพาน Rialto Bridge ที่เวนิชมากกว่า

Hertford Bridge หรือ Bridge of Sighs แห่ง Oxford ลุงเด้ง ป้าไก่ ก็ถ่ายรูปกัยไปชุดใหญ่เหมือนกันนะ 555

Bodleian Library & Divinity School

สถานที่ต่อไปคือ Bodleian Library & Divinity School ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับ Hertford Bridge อาคารนี้คือห้องสมุดที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เป็นที่รวบรวมหนังสือหายาก หนังสือต้นฉบับ เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ แผนที่

ในภาพนี้คือ รูปหล่อของ Sir Thomas Bodley ยืนหันหน้าไปทาง Tower of the Five Orders ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Bodleian Library

Bodleian Library ก่อตั้งโดย Sir Thomas Bodley เปิดใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1602 เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 บนเกาะอังกฤษ (อันดับหนึ่งคือ British Library) ว่ากันว่าหนังสือภายในห้องสมุดนี้มีมากถึง 12 ล้านเล่ม และหากนำมาเรียงต่อกันจะมีความยาวถึง 117 ไมล์กันเลย

Divinity School

ภายใน Bodleian Library จะมีห้องที่สำคัญและเปิดให้เข้าชม ส่วนนี้คือ Divinity School เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1423 แล้วเสร็จในปี 1488 เป็นสถาปัตยกรรมแบบ กอทิก ค่าเข้าชมเพียง £ 1 เท่านั้น

 ความโดดเด่นของห้องนี้คือ เพดานโค้งหินแกะสลัก วิจิตรมากๆ ว่ากันว่า...หินแกะสลักแต่ละชุดยกขึ้นไปประดับเพดานเป็นส่วนๆ และบนเพดานจะมีสัญลักษณ์อักษรย่อรายชื่อผู้บริจากเงินในการสร้างห้องนี้ ทั้งหมด 455 หมุด

Divinity School เป็นห้องเรียนทางเทววิทยา และห้องสอบ ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง

 และห้องนี้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึง 2 ฉาก : ห้องพยาบาล (Hogwarts Infirmary) ตอน The Philosopher's Stone และ ห้องเรียนเต้นรำ ตอน The Goblet of Fire

Divinity School ยังมีหน้าต่างที่มองเห็น Radcliffe Camera อีกด้วย

ภายใน Bodleian Library ยังมีอีก 1 ห้อง ที่ควรจะต้องเข้าไปชมให้ได้คือ Duke Humfrey's Library เราจะต้องซื้อทัวร์เข้าไปชม ราคาไม่แพงเริ่มต้นที่ £ 6 (30 นาที) แนะนำ ให้ซื้อ Package £ 9 (60 นาที) ทัวร์นี้เต็มเร็วมาก แนะนำให้จองล่วงหน้าที่ https://www.bodleian.ox.ac.uk/whatson/visit/tours/info

แต่ไม่มีภาพถ่ายมาให้ชม เพราะ Duke Humfrey's Library ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด

ปราสาทอ็อกฟอร์ด (Oxford Castle & Prison)

ปราสาทอ็อกฟอร์ด (Oxford Castle) สถาปัตยกรรมของอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 11 – 12 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง Oxford

ปราสาทอ็อกฟอร์ด (Oxford Castle) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1071 โดยชาวนอร์แมน แต่ได้ถูกทำลายเสียหายในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษตั้งศตวรรษที่ 18 ในช่วงทศวรรษที่ 1900 ได้นำมาใช้เป็นที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์

ในปี ค.ศ. 1996 เรือนจำแห่งนี้ปิดตัวลง และปรับเป็นร้านอาหารสุดหรู ท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณ ชิลมั๊ยล่ะครับ

Oxford Castle motte :  Motte หรือ Mound เนินดินที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการหลักของปราสาท

บนเนินดิน มีต้นไม้หลักอยู่ 2 ต้น ปัจจุบันสวยงาม และโดดเด่นมาก

Oxford Castle เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายของวันนี้แล้วล่ะครับ ต่อไปคือ อาหารค่ำ ที่รอมาทั้งวัน

Nando's

อาหารค่ำวันนี้ ... Nando's ไก่ย่างโปรตุเกส สุดฮิตในอังกฤษ สาขา George St (ตั้งอยู่หัวมุมถนน) ใกล้ๆ ไม่ไกลจากโรงแรม George Oxford Hotel โรงแรมเล็กๆ สะอาด ราคาไม่แพง ลุงเด้งป้าไก่ จองมาในราคา 3,680 บาทเท่านั้น ช่องทางการจอง http://bit.ly/2RM2ylk

Nando's ไก่ย่างโปรตุเกส สุดฮิตในอังกฤษ ลุงเด้งป้าไก่ เห็นร้านนี้มาในหลายๆ ประเทศ วันนี้จะได้มาลองชิมกันซะที ช่วงเย็นลูกค้าเยอะมากนะ นี่ต้องนั่งรอคิวกันเลย

Nando's ไก่ย่างโปรตุเกส เริ่มต้นความอร่อยมากว่าร้อยปี โดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกส ออกเดินทางแสวงหาดินแดนใหม่ ระหว่างการเดินทางก็ได้พบกับเครื่องเทศนานาชนิด จนในทีสุด มาสะดุดกับรสชาติอันเผ็ดร้อนของ African Bird’s Eye Chilli หรือ PERi-PERi จากนั้นก็นำมาผสมในอาหาร แล้วพัฒนามาเป็นซอสหมักไก่ย่างอันลือลั่นไปทั่วโลก

 ชุดนี้... Peri-Peri Chicken : 4 Chicken Thighs (สะโพกไก่ไร้กระดูก) + 2 reg. Sides (ข้าว + ขนมปัง) ราคา 11.25

 เนื้อสะโพกไก่ ไร้กระดูก หมักเครื่องเทศ และพริก Peri-Peri นานกว่า 24 ชั่วโมง ย่างบนเตาถ่าน

บอกเลย...อร่อยสุดๆ เผ็ดร้อนกำลังดี แต่ถ้าชอบเผ็ดจัด ที่ร้านมีซอสพริกใส่ขวดให้เลือกหลายชนิด (ซอสก็อร่อยสุดๆ จริงๆ) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีสาขาทั่วโลก

อร่อยตั้งแต่ไก่ ยัน ซอสพริกที่มีให้เลือกมากกว่า 7 ชนิด เริ่มตั้งแต่เผ็ดน้อย เรื่อยไปยังเผ็ดระเบิด

จบการเดินทางใน Oxford วันนี้ยาวนานมากๆ พรุ่งนี้ลุงเด้งป้าไก่ จะเดินทางเข้า LONDON แล้วก็จะเดินทางกลับบ้านด้วย การบินไทย ... Oxford ถ้ามีโอกาส ลุงเด้งป้าไก่ จะกลับมาเยือนอีกครั้ง เพราะหลงรักเมืองนี้เข้าอย่างจัง

รวมรีวิว Liverpool & Oxford จัดทำเป็นคู่มือท่องเที่ยว รวมสถานที่ท่องเที่ยว และร้านอร่อย พร้อมแผนที่
เที่ยวอังกฤษ Day 01 : Liverpool (ลิเวอร์พูล) ตามรอย The Beatles
เที่ยวอังกฤษ Day 02 : Liverpool (ลิเวอร์พูล) ตามรอย The Beatles
เที่ยวอังกฤษ Day 03 : Liverpool (ลิเวอร์พูล) ตามรอย The Beatles
เที่ยวอังกฤษ Day 04 : Oxford (ออกซ์ฟอร์ด) เมืองแห่งการเรียนรู้

สนับสนุนการเดินทางโดย : การบินไทยบินตรงลอนดอน ทุกวัน
http://www.thaiairways.com/

เที่ยวอังกฤษ Day 04 : Oxford ออกซ์ฟอร์ด เมืองแห่งการเรียนรู้