เที่ยวพม่า มิงกะลาบา ยลเสน่ห์ มัณฑะเลย์ – เนปิดอว์ ชิมกุ้งเผาพม่า กับ Bangkok Airways (ตอนที่ 1)
ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้รับเชิญจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์
ให้ร่วมเดินทางไปยลเสน่ห์ มัณฑะเลย์ - เนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
รายละเอียดของการเดินทางเน้นในเรื่องไหว้พระ ทำบุญ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า
ก่อนหน้านี้ได้ชมภาพยนต์เรื่อง The Lady ซึ่งเป็นเรื่องราวการตีแผ่ชีวิตการต่อสู้ของ อองซานซุจี สตรีเหล็กผู้กล้า ให้ต้องเลือกระหว่างครอบครัว หรือ ประเทศชาติ (พม่า) ทำให้ลุงเด้ง ป้าไก่ รู้จักประเทศพม่ามากขึ้นถึงแม้จะเป็นภาพสะท้อนถึงการเมือง การปกครองในประเทศพม่าก็ตาม
การเดินทางไปเยือนพม่าครั้งแรกของลุงเด้ง ป้าไก่ จะเป็นอย่างไรติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ
มิงกะลาบา ยลเสน่ห์ มัณฑะเลย์ - เนปิดอว์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์
วันที่ 28 - 30 มกราคม 2557
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ : Bangkok Airways - Asia's Boutique Airline
เว็บไซต์ http://www.bangkokair.com/
“มัณฑะเลย์” เป็นเมืองหลวงเก่าของพม่า เป็นราชธานีสุดท้ายก่อนที่พม่าจะตกเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ และยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์และงานศิลป์อันล้ำค่า ผู้สร้างเมืองมัณฑะเลย์ขึ้นเป็นราชธานีก็คือ “พระเจ้ามินดง” กษัตริย์ผู้ทรงย้ายราชธานีจากกรุงอมรปุระมาสร้างเมืองใหม่ขึ้นใน พ.ศ.2400 ณ บริเวณพื้นที่ระหว่างแม่น้ำอิระวดีและภูเขาลูกหนึ่งที่มีชื่อว่า “มัณฑะเลย์” พร้อมตั้งชื่อเมืองตามภูเขาว่า“เมืองมัณฑะเลย์” โดยทรงเห็นว่าที่นี่มีชัยภูมิที่เหมาะสม อยู่ไกลจากการรุกรานของกองทัพเรืออังกฤษ และด้วยความเชื่อว่าภูเขามัณฑะเลย์เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับที่นี่ พร้อมทั้งมีพุทธทำนายว่าจะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา
วันแรก : สนามบินสุวรรณภูมิ– มัณฑะเลย์
10.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ F
ออกเดินทางสู่กรุงมัณฑะเลย์ โดยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบินที่ PG709
โดยมีเจ้าหน้าคอยให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเยี่ยม
ขั้นตอนการ Check-in
การปฏิบัติงานชัดเจน คำพูดคำจา เรียงร้อยประโยคสวยงามดีจริงๆ
ไม่ใช่เฉพาะ Blue Ribbon Class / Premier Member เท่านั้นนะครับ
สังเกตจาก เคาน์เตอร์ ข้างๆ ก็ให้บริการดีเยี่ยมเช่นกัน
ผู้โดยสารเช้านี้ หนาแน่นมากเลยครับ
Check-in ได้รับ Boarding Pass มาเป็นที่เรียบร้อย มีตราประทับ BRC
หมายถึงเราสามารถใช้ Blue Ribbon Club ห้องพักรับรอง ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ในชั้นธุรกิจได้ครับ
เพื่อนๆ ที่ใช้ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด ได้รับสิทธิพิเศษ
เข้าใช้ Blue Ribbon Counter และ Blue Ribbon Club/Lounge ได้ตามเงื่อนไขนี้ครับ
Bangkok Airways : รับบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด เลือกรับบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ดังนี้
• บริการวีไอพี เช็คอิน บิสซิเนส คลาส (Blue Ribbon Counter) พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน หรือ
• บริการห้องพักรับรอง บิสซิเนส คลาส (Blue Ribbon Club/Lounge) ระหว่างรอขึ้นเครื่อง พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน
http://www.ais.co.th/privilege/th/serenade-deal.aspx?id=1
เราไปสำรวจ ห้องพักรับรอง บิสซิเนส คลาส (Blue Ribbon Club/Lounge) กันดีกว่าครับ
โชว์ Boarding Pass กับ Passport ก็เป็นอันเรียบร้อย เตรียมใช้บริการได้เลย
ข่าวจากอินเตอร์เน็ตว่าไว้ว่า... Blue Ribbon Club บริการดีเลิศ อาหารอร่อย โดยเฉพาะข้าวต้มมัดในตำนาน
บรรยากาศภายใน Blue Ribbon Club
อาจจะไม่ใหญ่โตมาก แต่ก็หรูหราสมชื่อ Asia's Boutique Airline ของไทย
เจ้าหน้าที่ต้อนรับเป็นอย่างดี ทันทีที่เลือกที่นั่งได้ พนักงานมอบเมนู เครื่องดื่ม และอาหาร ให้เลือกสั่งตามสะดวก
ชามะนาว กับ ชาขาวว่านหางจระเข้
บะหมี่เป็ดย่างโฟร์ซีซั่น
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสต้มยำ
ป้าไก่บอกว่า เป็น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสต้มยำ ที่อร่อยที่สุด 555
ข้าวต้มมัด ในตำนาน อร่อยจริง อร่อยจัง สมคำเล่าลือ
เคยอ่านในรีวิว ขนาดหยิบไปทานต่อบนเครื่องกันเลย
ขนมฝรั่งก็มีนะครับ แต่ข้าวต้มมัดอร่อยกว่า หลายช่วงตัว
อิ่มแล้ว เตรียมตัวขึ้นเครื่องเดินทางไป มัณฑะเลย์ กันดีกว่าครับ
11.25น. เป็นเวลา Boarding Time ใครกำลัง Shopping ที่ Duty Free ก็ควรจะรีบชำระเงิน แล้ว
มุ่งหน้าไปที่ GATE ได้แล้วนะครับ
12.05น. ออกเดินทางสู่กรุงมัณฑะเลย์ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG709
ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ... เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2556 - 29 มีนาคม 2557 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จะใช้เครื่องบิน Airbus 319 ของสายการบิน Bulgaria Air มาใช้บินเส้นทางนี้
ภายในเครื่องบิน Airbus 319 ของสายการบิน Bulgaria Air ที่นำมาใช้บินในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
Inflight magazine : FAHTHAI รูปเล่มสวยงาม ข้อมูลท่องเที่ยวของแต่ละสถานที่ตามเส้นทางการบิน อ่านเพลินๆ ระหว่างการเดินทาง
เส้นทางพม่า ใน 3 เมืองหลัก มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง
อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่อง
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ให้บริการอาหารร้อน
มื้อนี้เป็น บะหมี่ผัดกุ้ง รสชาติคล้ายๆ ยากิโซบะ ในชุดจะมีกุ้ง 3 ตัว
ส่วนของเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไวน์ มีครบ
ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที เครื่องก็พาลุงเด้ง ป้าไก่ มาถึงสนามบินมัณฑะเลย์
ขำ ๆ ... รถบัสที่มีรับผู้โดยสารลงจากเครื่อง เพื่อไปส่งที่ตัวอาคาร
ทันทีที่เครื่องลงจอดที่สนามบินมัณฑะเลย์ ก็มีรถบัส 1 คันรอรับผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องบินไปส่งที่ตัวอาคาร เพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋า !!!
สีเสื้อลุงเด้ง วันนี้เข้ากับรถบัสคันนี้จริงๆ เลย 555
บรรยากาศภายในรถรับส่งผู้โดยสาร เห็นแล้วนึกถึงกระเป๋ารถเมล์เลยครับเนี้ย
โฉมหน้า สนามบินมัณฑะเลย์ อนาคตจะมีผู้โดยสารมากกว่านี้ เพราะนักท่องเที่ยวไทยนี่แหละครับ
รถบัสนำเที่ยว ที่จะพาเราไปทุกหนทุกแห่งตลอดเวลา 3 วัน 2 คืน
ยี่ห้อ Higer รถบัสใหม่กิ๊ก ผลิตจากประเทศจีน
จากสนามบินใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง มัณฑะเลย์
สถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมในวันนี้
1. พระราชวังมัณฑะเลย์
2. วัดกุโสดอ
3. วัดพระหินอ่อน หรือ วัดตอจี
4. อาหารค่ำ เมนูอาหารไทย กุ้งแม่น้ำเผา
5. โรงแรม Mandalay Hill
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก ที่ลุงเด้ง ป้าไก่ ไปเยี่ยมชมคือ พระราชวังมัณฑะเลย์
พระราชวังมัณฑะเลย์เป็นพระราชวังที่สร้างโดยพระเจ้ามินดง ระหว่างปี ค.ศ. 1857-ค.ศ. 1859 หลังการย้ายเมืองหลวงจากอมระปุระมายังมัณฑะเลย์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระราชวังไม้สักทั้งหลังที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย
มีคูน้ำรอบพระราชวังและประตูที่ยิ่งใหญ่ และพระราชวังที่สุดท้ายของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์คองบองและในประวัติศาสตร์พม่า
ในประวัติศาสตร์พม่า เมื่ออังกฤษเข้ายึดครองพม่าในสงครามโลกครั้งที่สอง ทางอังกฤษคิดว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของทหารญี่ปุ่น จึงได้ทำลายพระราชวังเสียด้วยการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1945 ส่งผลให้พระราชวังแห่งนี้เสียหายเกือบทั้งหมด
จนปัจจุบันได้รับการบูรณะโดยรัฐบาล โดยการลอกแบบโครงสร้างเดิม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของมัณฑะเลย์
พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังหลวงของพระเจ้ามิงดง สร้างขึ้นตามผังภูมิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ โดย สมมุติให้เป็นศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ) แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกำแพงล้อมร้อบทั้งสี่ทิศ แต่ละทิศมีประตูทางเข้า 3 ประตู รวมทั้งสิ้น12 ประตู ที่ประตู ทำสัญลักษณ์จักรราศีประดับเอาไว้ ใจกลางพระราชวัง เป็นห้องพระมหาปราสาท (ห้องสีหาสนบัลลังก์) เป็น ปยัตตั้ด (ยอดปราสาท) หุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกัน เจ็ดชั้นสูง 78 เมตร เชื่อกันว่า ความเป็นไปในจักรวาลจะลอดผ่าน ยอดปราสาท ตรงลงมาสู่พระแท่นราชบัลลังก์ ช่วยให้กษัตริย์ตัดสินพระทัยในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง นักานุษยวิทยา ชื่อ ชาร์ส เคเยส กล่าวถึงพระราชวังไว้ในรายงาน ความว่า “กำแพงวังยาวเกือบ 2 กม. มีคูน้ำล้อมรอบ พ้นกำแพงออกไปเป็นบ้านเรือนของสามัญชน และชาวต่างชาติ ตลาด โรงงานของช่างฝีมือ และร้านรวงต่างๆ แต่กำแพงเมืองพุทธไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นปราการป้องกันข้าศึก อย่างของจีน และยุโรปในสมัยกลาง แต่สร้างไว้ เพื่อแสดงว่าพื้นที่ในวงล้อมของกำแพงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ท้องพระโรง ที่อดีตเคยเป็นที่ประชุมเหล่าข้าราชการ
มหาปราสาท 7 ชั้น
ยอดปราสาท หุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกัน เจ็ดชั้น สูง 78 เมตร เชื่อกันว่า ความเป็นไปในจักรวาลจะลอดผ่าน ยอดปราสาท ตรงลงมาสู่พระแท่นราชบัลลังก์ ช่วยให้กษัตริย์ตัดสินพระทัยในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
หอคอยเมืองมัณฑะเลย์
หอคอยแห่งนี้ สร้างอยู่ภายในอนาเขตของพระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างด้วยไม้ทาสีแดงโดดเด่น มีบันไดเวียนขึ้นไปด้านบน หลังคาเป็นทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้น
ในประวัติศาสตร์มีบันทึกไว้ว่า หอคอยนี้สำหรับพระเจ้าตี่ป่อเสด็จขึ้นไปชมทัศนียภาพนอกพระราชวัง ระหว่างที่ครองราชย์ ว่ากันว่า... ระหว่างที่ครองราชย์พระเจ้าตี่ป่อไม่เคยเสด็จออกนอกวังเลย (ลุงเด้ง ป้าไก่ คิดเอาเองว่าการที่ไม่เสด็จออกนอกพระราชวังเนื่องจากกลัวการลอบปลงพระชนม์แน่ๆ เลย)
ตามป้าไก่ ไปชมวิวจากด้านบน หอคอยเมืองมัณฑะเลย์ กันครับ
บันไดวนขึ้นมาเรื่อยๆ แบบ NONSTOP คือไม่มีชานพักเลยครับ
เดินวนๆ กันขึ้นมาตลอด ทำป้าไก่ของเรา ขาอ่อนแรงกันเลย 555
วิวด้านบนที่มองจากหอคอยเมืองมัณฑะเลย์
หอคอยเมืองมัณฑะเลย์
พระนางศุภยลัตได้ทอดพระเนตรเห็นเรือรบ ของอังกฤษที่กำลังแล่นเข้ามาตามแม่น้ำอิรวดี
เมื่อเสด็จลงพระองค์ก็ทรงกันแสงและแสดงความโศกเศร้าเสียพระทัยอย่างที่สุด
หมายเหตุ... นี่คือมุมมหาชนน่ะครับ ห้ามยืนหลังแผ่นไม้ที่กั้นขวางอยู่ เพราะ ระเบีบงไม้หลังจากแผ่นไม้กั้นผุ และชำรุด ถ้ามุดเข้าไปพิง อันตราย เพราะไม่แข็งแรงแล้ว
อาณาเขตภายในพระราชวัง สิ่งก่อสร้างที่เห็นนี้ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยอิงข้อมูลจากของเดิม
กลั้นใจเดินลง แบบ NONSTOP กันอีก 1 รอบ ขาลงนี่เหมือนจะง่าย
แต่ลำบากยิ่งกว่า ระดับบันไดไม่เท่ากัน ทำให้ก้าวแต่ละก้าว มันไม่เท่ากันด้วยนี่ซิครับ
อาคารที่ประทับของของพระมเหสี (ทั้งหลาย)
ลายไม้แกะสลักเป็นลวดลายที่มีฝีมือละเอียดอ่อนสวยงาม
บรรยากาศเงียบสงบภายในพระราชวังมัณฑะเลย์
บริเวณพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองมัณฑะเลย์
ไฟแห่งสงครามได้เผาไหม้พระราชวังมัณฑะเลย์จนหมดสิ้น รวมถึงการสูญสิ้นเอกราชต่อนักล่าอาณานิชาวอังกฤษและชีวิตคนพม่าที่สังเวยต่อความบ้าอำนาจของชาวตะวันตก
ปัจจุบันเหลือไว้เพียงสิ่งก่อสร้างจำลองเสมือนจริงเท่านั้น
คณะของเรามุ่งหน้าสู่ วัดกุโสดอร์ เป็นวัดที่มี“พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก”
วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) พระเจ้ามินดงสร้าง วัดกุโสดอร์ ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ 5 และ ถือเป็นการสังคายนาครั้งแรกในรอบ 2,000 ปีในสมัยของพระเจ้ามินดง โดยได้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ เป็นอักษรพม่าที่ถอดความมาจากภาษาบาลีลงบนหินอ่อน 729 แผ่น และต้องใช้พระสงฆ์ถึง 2400 รูป ในการคัดลอกและใช้เวลานานถึง 6 เดือนกว่าจะแล้วเสร็จ พระไตรปิฏกที่ชำระขึ้นใน ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น “พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก”
โดยแผ่นหินอ่อนที่จารึกพระไตรปิฎกขนาดใหญ่ทั้ง 729 แผ่น จะอยู่ในครอบมณฑปซึ่งตั้งอยู่โดยรอบวัด
พระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ จารึกลงบนหินอ่อน 729 แผ่น เป็นอักษรพม่าที่ถอดความมาจากภาษาบาลี
ชมกันใกล้ๆ ครับ
ไกด์บอกว่า ด้านในวัดกุโสดอร์ มีเจดีย์ มหาล่อกะมาระเส่ง (มหาโลกมารซิน) สูง 30 เมตร สีทองเหลืองอร่าม จำลองมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม
ตามไปชมด้านในกันครับ
สุดทางก่อนถึงเจดีย์ มหาล่อกะมาระเส่ง เราไหว้พระ และทำบุญกันก่อนครับ
เข้ามาชมความสวยงามของ เจดีย์ มหาล่อกะมาระเส่ง (มหาโลกมารซิน) สูง 30 เมตร
จำลองมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม
สวยงามแบบพม่าจริงๆ ครับ
ที่วัดนี้จะมี เด็กๆ มาขายดอกไม้ครับ พวกละ 1,000 จ๊าด
ซื้อดอกไม้แล้วก็จับมาถ่ายรูปซะเลย
น้องคนนี้ ดังนะครับ ใครไปวัดนี้ ได้ถ่ายรูปกับน้องคนนี้ทุกคนเลย
ตอนออกมาด้านนอกวัด เห็นน้องคนนี้เดินขายดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวอยู่นาน
ไม่มีใครซื้อ ป้าไก่ เลยเรียกมาอุดหนุน น้องดีใจ และอารมณ์ดี ขึ้นมาทันทีเลย
ป้าไก่ บอกว่า น่าจะมีบริการ ปะแป้งแต่งหน้าพม่าสไตล์ ด้วย ทานาคา แบบเด็กคนนี้
รับรองได้เงินเพียบ
บอกลาน้องขายดอกไม้ สื่อสารกันไม่ได้ แต่โบกมือบ๊ายบาย เป็นอันรู้กันว่าลาก่อน
วัดพระหินอ่อน หรือ วัดตอจี แห่งเมืองมัณฑะเลย์ Kyauktawgyi Pagoda
ซื้อชุดบูชาเพื่อไปนมัสการพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ใหญ่ภายในวัดตอจี แห่งเมืองมัณฑะเลย์ ราคาชุดละ 1,000 จ๊าด
วัดตอจี แห่งเมืองมัณฑะเลย์ เป็นวัดสำคัญของเมืองตั้งอยู่เชิงเขามัณฑะเลย์
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สร้างในสมัยพระเจ้ามินดง แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2408
องค์พระประธานของวัดนี้แกะสลักจากหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สุดใน มัณฑะเลย์
ปัจจุบันพระพทุธรูปหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดในพม่าตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง
พระพทุธรูปหินอ่อน ดูอ่อนช้อยมากเลยครับ
ป้าไก่ กับบริเวณลานกว้างๆ ภายในวัด
ต้นไม้กิ่งสีเหลือง ทรงสวยงามมาก ไม่ทราบชื่อว่าต้นอะไร ใครเข้ามาพอทราบแจ้งด้วยนะครับ
ภายในวัดมีจำหน่ายรองเท้าแตะ ขนาดมาตรฐาน ราคา 2,000 จ๊าด / ของลุงเด้ง เบอร์ใหญ่ ก็ราคา 3,000 จ๊าด
อาหารค่ำวันนี้ ทานที่ KO's Kitchen
เป็นร้านอาหารไทย ชื่อดังในมัณฑะเลย์ และมีทัวร์ไทย มาใช้บริการตลอดเวลา
มื้อนี้มีอาหารหลากหลายนะครับ
แกงเขียนหวานไก่ / น้ำพริกกะปิ ทานกับปลาทอด ผัดสด / ทอดมัน / กุ้งทอดกระเทียม / ไข่เจียว / ผัดผัก / ต้มยำ
อร่อยทุกอย่างครับ
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย กุ้งแม่น้ำพม่าเผา ตัวจะสั้น แต่อวบอ้วน กว่ากุ้งแม่น้ำของไทยเนื้อแน่น
เนื้อกุ้งแน่นหนุบหนับ ทีเด็ดอยู่ที่มันเยิ้มๆ ตรงหัวกุ้ง ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดของทางร้าน (อาจจะไม่จัดจ้านเหมือนไทย) แต่ก็ให้รสกลมกล่อมออกแนวแซ่บสมใจอยาก
การเดินทางมา มัณฑะเลย์ ลุงเด้ง ป้าไก่ และคณะ พักที่ MANDLAY HILL 2 คืน เป็นโรงแรม 4 ดาวของพม่า มีเจ้าของเป็นคนไทย
ห้องนอนใหญ่มาก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วน
เตรียมตัวพบกับ
เที่ยวพม่า #1 : มิงกะลาบา ยลเสน่ห์ มัณฑะเลย์ - เนปิดอว์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (ตอนที่ 2)
เร็วๆ นี้