ที่นี่… หนานจิง (Nanjing)
หนานจิง หรือ นานกิง (Nanjing) เมืองนี้เป็นดินแดนที่ปรากฏขึ้นมาในหน้าประวัติศาสตร์จีน กำหนดให้เป็น “นครหลวงทางใต้” ตั้งอยู่ช่วงกลางไปจนถึงปลายของแม่น้ำแยงซี ในมณฑลเจียงซู
ในอดีต หนานจิง เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ถึง 10 ราชวงศ์ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยโบราณสถานที่สะท้อนความเป็นมา และความรุ่งเรืองในอดีต ในฐานะเมืองหลวงในช่วงราชวงศ์หมิงและยังเป็น 1 ใน 6 นครโบราณของจีน อันได้แก่ ปักกิ่ง หนานจิง ซีอาน ลั่วหยาง หางโจว และ ไคเฟิง
หนานจิงเมืองหลวงครั้งสุดท้ายระหว่างปี พ.ศ. 2470 ถึง พ.ศ. 2492 โดยรัฐบาลสาธารณรัฐจีน ซึ่งมีผู้นำขณะนั้น คือ นายพลเจียงไคเช็ค ต่อมา ประธานเหมาเจ๋อตง หลังสถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2492 รัฐบาลใหม่จึงได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังปักกิ่งดังเดิม
การเดินทางครั้งนี้ ลุงเด้งป้าไก่ใช้บริการสายการบิน NokScoot (นกสกู๊ต) เพราะมีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ กรุงเทพ-นานกิง ออกมาตลอดปี
สายการบินนกสกู๊ต เป็นสายการบินราคาประหยัด ไม่มีจอ TV ไว้ดูหนังฟังเพลง แต่... ลุงเด้งป้าไก่เฮฮาได้ตลอดการเดินทางเพราะมี Inflight Entertainment แบบส่วนตัว ก่อนเดินทางเลือกเก็บไฟล์หนัง ไฟล์เพลงที่ชอบ ลงไว้ใน SanDisk Connect Wireless Stick เพียงแค่นี้เราสามารถดูวิดีโอ, ฟังเพลง และยังสามารถแชร์รูปภาพได้แบบไร้สาย และสามารถชมภาพยนตร์และฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งจากแฟลชไดร์ฟได้พร้อมกันถึง 3 เครื่อง ผ่านทาง Smart Phone
ลุงเด้งป้าไก่ เดินทางด้วยเที่ยวบิน WX888 ออกเดินทางจากดอนเมือง เวลา 13:35 ถึงเมืองนานกิง เวลา 18:50 (เวลาท้องถิ่น)
หลังจากที่เครื่องบินไต่ระดับความสูงที่ระดับความ สูง 35,000 ฟุต ในเวลาไม่นานพนักงานต้อนรับก็เตรียมจัดอาหารพร้อมเสิร์ฟ รสชาติ และ หน้าตาอาหารจัดว่าดูดีเลยนะ
เดินทางกันประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ แนะนำเพื่อนๆ สั่งซื้ออาหารล่วงหน้า จะประหยัด และมีตัวเลือกมากกว่าซื้อบนเครื่อง Scoot Café อิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนู ทั้ง อาหารอุ่นร้อน อาหารว่าง ขนบขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม http://www.nokscoot.com/th/in-flight/food-beverage
สนามบินนานกิง ทันสมัยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย การบริหารจัดการถือว่าดีพอสมควร
วิธีการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองมีหลายวิธี รถไฟใต้ติด รถบัส แต่วันนี้เพื่อความรวดเร็ว ลุงเด้งป้าไก่ ใช้บริการ TAXI จากสนามบิน -> Novotel Nanjing Central Suning ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ราคา 180 หยวน (ประมาณ 900 บาท)
ทริปนี้ลุงเด้งป้าไก่ พักที่ Novotel Nanjing Central Suning ตั้งอยู่ใกล้กับ Subway Line 2 (Blue) สถานี Xinjiekao Station
โรงแรมในเมืองนานกิงราคาไม่แพงนะครับ ทริปนี้ลุงเด้งป้าไก่ พัก Novotel Nanjing Central Suning ราคาเริ่มต้นที่ 2,100 บาท เท่านั้นเอง
วันนี้เราเน้นเดินสำรวจรอบๆ โรงแรม ที่รายล้อมไปด้วยห้างขนาดใหญ่ และข้างๆ โรงแรมก็มีร้านอาหารดีๆ หลายร้าน มื้อค่ำนี้เรามาจบที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะตั้งแต่เวลา 22:00 เป็นต้นไป ลด 12% ทุกรายการ
ราคาอาหารพื้นฐานก็ไม่แพง พอมาได้ส่วนลดอีก 12% บอกเลยว่าถูกมากๆ
มื้อแรกใน เมืองนานกิง ประเดิมร้านอาหารญี่ปุ่น ปลาดิบรวม ชุดนี้ จ่ายไป 104 หยวน (520 บาท) เพราะมากินช่วง 22:00-24:00 ลดไปอีก 12% ถูกเวอร์
Day 02 : เช้าวันที่ 2 ลุงเด้งป้าไก่ ทานอาหารเช้าที่โรงแรม มีความหลากหลายพอสมควร
โปรแกรมท่องเที่ยววันนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในย่านเดียว แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมกันตั้งแต่เช้ายันเย็น เรียกได้ว่าวันนี้มาเพราะเจาะลึกย่านนี้กันเลย
1. กำแพงเมืองนานกิง (City Wall of Nanjing)
2. วัดขงจื้อ (Confucius Temple ,夫子廟)
3. แม่น้ำชิงไห่ (Qin Huai River)
4. ล่องเรือแม่น้ำชิงไห่ Qinhuai River Cruise
5. ถนนคนเดินโบราณหวังฝู่เมียว
6. อาหาร และขนมที่ไม่ควรพลาดในย่านนี้
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสะดวกและไม่แพง คนละ 2 หยวน เท่านั้นจากโรงแรมที่ลุงเด้งป้าไก่พักไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีตู้หยอดเหรียญซื้อตั๋วสามารถเลือกเป็นภาษาอังกฤษได้ไม่มีปัญหา
สถานที่ท่องเที่ยววันนี้อยู่ที่ สถานี Confucius Temple Station ทางออก 2 (Subway Line 3 สีเขียว)
ออกมาแล้วก็สังเกตุเห็นป้ายแบบนี้ อ่านไม่ออกหรอกนะ แต่ก็เดาเอาว่าต้องเดินออกมาทางนี้แน่นอน
เดินมาไม่นานก็จะเจอบริเวณจุดทางเข้า ตลาดฟู่จื่อเมี่ยว Fuzimiao Market เป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ เดินตรงเข้าไปก็จะเป็น /วัดขงจื้อ (Confucius Temple ,夫子廟) / แม่น้ำชิงไห่ (Qin Huai River) / ล่องเรือแม่น้ำชิงไห่ Qinhuai River Cruise / ตลาดฟู่จื่อเมี่ยว Fuzimiao Market/ และ กำแพงเมืองนานกิง (City Wall of Nanjing) ทั้งหมดจะอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้
บริเวณหน้าทางเข้า และจุดต่างๆ จะมีแผนที่ท่องเที่ยว ลุงเด้งเริ่มต้นจากทางเข้า เดินมุ่งหน้าไปยังจุดที่ไกลที่สุดคือ กำแพงเมืองนานกิง (City Wall of Nanjing) เป็นที่แรก ... ไกลนะครับ ประมาณ 2 กิโลเมตร เรียกกว่าเดินกันยาวๆ ไปเลย
ระยะทาง 2 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้น ค่อนข้างไกล ... วิธีของลุงเด้งป้าไก่ คือเดินไป ถ่ายรูปไป ชิลล์ ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ถ่ายรูป เดินประมาณ 20 นาที ก็ถึง 555
กำแพงเมืองหนานจิง (City Wall of Nanjing) สมัยราชวงศ์หมิง (南京明城墙) ออกแบบโดยจู หยวนจาง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1366 รวมความยาวกว่า 35 กิโลเมตร มีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 14-21 กิโลเมตร การก่อสร้างต้องใช้เวลานานกว่า 20 ปี
มีค่าเข้าชมคนละ 50 หยวน เปิด 8:30 - 20:00 ทุกวัน
กำแพงเมืองหนานจิง (City Wall of Nanjing) ปัจจุบันยังหลงเหลือเป็นระยะทาง 25.1 กิโลเมตร เป็นงานอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญอันดับแรกๆของประเทศ
ว่ากันว่า...อิฐแต่ละก้อนที่นำมาสร้างกำแพงจะสลักชื่อของแรงงานเอาไว้ ในกรณีอิฐก้อนใดเสียหาย จะได้ลงโทษได้ถูกคน และคือการปกครองที่เด็ดขาดของจูหยวนจาง
หมายเหตุ ... จูหยวนจาง (朱元璋) ผู้สถาปนาราชวงศ์หมิงของจีน สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ทรงพระนามว่าหมิงไท่จู่ (明太祖)ใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าหงอู่ หรือหงอู่(洪武)เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงจาก อิ้งเทียน เป็น หนานจิง
เราสามารถเดินขึ้นมาชมวิวเมืองหนานจิงได้ แนวกำแพงมีลักษณะเป็นตัว U นักท่องเที่ยวไม่เยอะ
จุดชมวิว เราจะมองเห็น เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง (The Porcelain Tower of Nanjing)
เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง เจดีย์แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณล้ำค่าของจีนและได้รับการยกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ลุงเด้ง ป้าไก่ ไม่ได้แวะไปที่ เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง แต่ตั้งใจว่า สิ้นปีนี้จะแวะมาอีกครั้ง
ใช้เวลาเดินชม และถ่ายรูปอยู่ที่นี่นานพอสมควร จากนั้นก็เดินกลับไปยังจุดเริ่มต้น คือตลาดฟู่จื่อเมี่ยว Fuzimiao Market เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันครับ
กลับมายังจุดเริ่มต้นคือ ตลาดฟู่จื่อเมี่ยว Fuzimiao Market ในบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขนม ของที่ระลึก วัดขงจื้อ (Confucius Temple ,夫子廟) / แม่น้ำชิงไห่ (Qin Huai River) / ล่องเรือแม่น้ำชิงไห่ Qinhuai River Cruise ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่นี่ทั้งหมด ลุงเด้งป้าไก่จะอยู่บริเวณนี้ถึงค่ำเลย
นักท่องเที่ยวเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นทัวร์จีนเที่ยวเมืองจีน ด้วยความที่เป็นประเทศใหญ่ ประชากรเยอะ คนจีนรองรับการท่องเที่ยวของคนจีนด้วยก็เองก็รวยแล้ว คนต่างชาติในเมืองนี้น้อยมาก
ในย่านนี้มีร้านอาหารเยอะ ... ร้านไหนคนเต็มร้านก็ร้านนั้นเลยครับ รูปแบบจะเป็นศูนย์อาหาร ที่เราต้องเอาเงินไปซื้อบัตรอาหาร วิธีการหาที่นั่งให้ได้ก่อน จากนั้นก็เดินมาสั่งอาหาร ชำระเงินด้วยบัตร จากนั้นก็รอรับอาหารได้เลย ถ้าเงินในบัตรเหลือสามารถแลกคืนได้ อาหารทุกชนิดจะมีตัวอย่างอยู่หน้าร้าน ชอบอะไร อยากกินอะไร ก็ชี้ได้เลย (คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ... ชี้ๆ ไป เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง สนุกดี)
เสี่ยวหลงเปายักษ์ เป็นอีก 1 รายการที่ห้ามพลาด มีขายหลายร้าน เลือกร้านที่คิว ยาวๆ อร่อยชัวร์ ร้านนี้ลุงเด้งป้าไก่ ก็ไปต่อคิว ประมาณ 10 นาทีก็ได้ เสี่ยวหลงเปายักษ์ จะปั้นสดๆ หลังร้าน ลูกเท่าฝ่ามือ เสิร์ฟมาในถ้วย มีหลอดดูดน้ำซุป ระวังร้อน จะลวกปาก รอให้อุ่นก่อนแล้วค่อยกินนะครับ รสชาติดี ลูกละ 20 หยวน คนซื้อกินกันเยอะ
เสี่ยวหลงเปายักษ์ในศูนย์อาหารไม่อร่อยอย่างแรง... ต้องซื้อจากร้านที่ขายเสี่ยวหลงเปายักษ์โดยเฉพาะเท่านั้น
ร้านน้ำมะม่วง "ฉันยุ่งมาก" ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ... ใครๆ ก็ถือกินกัน มีอยู่ทุกจุด ในย่านตลาดฟู่จื่อเมี่ยว Fuzimiao Market แห่งนี้มีไม่ต่ำกว่า 5-6 ร้าน เรียกได้ว่า ขายกัน 360 องศา ป้าไก่ไปซื้อมาลองชิมแล้ว... เฉยๆ เลยอ่ะ แต่คนจีนชอบกันมากๆ
ภายในบริเวณนี้มี วัดขงจื้อ (Confucius Temple ,夫子廟) เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองหนานจิงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1577 ในสมัยราชวงศ์ซ่ง เพื่อเป็นสถานที่บูชาขงจื้อ วัดนี้มีค่าเข้าชมคนละ 30 หยวน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9:00-22:00 ทุกวัน
ขงจื๊อ เป็นนักปรัชญาและนักการศึกษาที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของจีน ได้รับการยกย่องให้เป็นนักคิดและนักปรัชญา เน้นเกี่ยวเรื่องการประพฤติปฏิบัติของมนุษย์ในชาติให้อยู่ในศีลธรรม รวมถึงศีลธรรมในสังคม และการปกครองด้วยความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ
ขงจื๊อยังเป็นผู้ให้กำเนิดมหาวิทยาลัยแห่งแรกของจีน เพื่อสร้างบัณฑิต และสั่งสอนผู้อื่นถึงการใช้ชีวิตแบบ "ปัญญาชนสาธารณะ"
ที่วัดแห่งนี้ในสมัยโบราณยังใช้เป็นสถานศึกษา สถานที่สอบคัดเลือกจอหงวน
วัดขงจื้อแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงที่ญี่ปุ่นบุกยึดเมืองหนานจิงในปี พ.ศ.2480 หลังจากนั้นก็ได้มีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่อีกหลายครั้ง
จุดชมวิวแม่น้ำชิงไห่
แม่น้ำชิงไห่เป็นแม่น้ำสาขาย่อยที่แตกออกจากแม่น้ำแยงซี มีความยาวตลอดทั้งสาย110 กิโลเมตร ผ่านเมืองหนานจิง เป็นอีก 1 มุมที่นักท่องเที่ยวจะมาถ่ายรูปกันที่นี่ เรียกว่าสวยทั้งกลางวัน และกลางคืน
ล่องเรือแม่น้ำชิงไห่ Qinhuai River Cruise ช่วงเย็น ลุงเด้งป้าไก่ซื้อตั๋วล่องเรือชมความงดงามของวิวแม่น้ำ และร้านค้า บ้านเรือนตลอดเส้นทางของแม่น้ำ ขึ้นเรือที่ตรงข้ามวัดขงจื๊อ ค่าบริการคนละ 60 หยวน ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาที
วันนี้ตั้งแต่เช้า - ค่ำ ลุงเด้งป้าไก่วนเวียนอยู่แต่ในบริเวณนี้ จะบอกว่ายังเที่ยวไม่หมดเลย
Day 03 : วันนี้ลุงเด้งป้าไก่ จะไปเที่ยวที่ เขาจื่อจิงซาน หรือ Purpul Mountian เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองหนานจิง
1. สุสานดร.ซุนยัดเซ็น (Mausoleum of Sun Yatsen)
2. สุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu)
3. วัดหลิงกู่ (Linggu Temple)
การเดินทางวันนี้เริ่มต้นที่ Subway line 2 สถานี Xiamafang ทางออก 2
ออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน เดินตรงมา จะเห็นคิวรถ ที่จะพาไปส่งสุสานดร.ซุนยัดเซ็น (Mausoleum of Sun Yatsen) มีค่ารถคนละ 10 หยวน
สุสานดร.ซุนยัดเซ็น มีนักท่องเที่ยวเยอะมากมาแต่ละวัน เพราะที่นี่เข้าชมฟรี
ดร.ซุนยัดเซ็น ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาบุรุษผู้นำพาชาวจีนก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีมาอย่างยาวนานนับพันพันปี สู่ความเสมอภาค จนถูกยกให้เป็นบิดาแห่งจีนยุคใหม่ สุสาน ดร.ซุน ยัดเซน ซึ่งถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคน ตั้งอยู่บนเขาจิงซาน (ภูเขาสีม่วง) ครอบคลุมอาณาเขตราว 80,000 ตารางเมตร
โดยอุโมงค์ทางเดิน ประตูสุสาน ศาลาศิลาจารึกหลุมฝังศพ และหอรำลึก ถูกสร้างเรียงตามแนวแกนกลางเหนือจรดใต้ตลอดแนวเนินเขายาวกว่า 73 เมตร หากมองจากมุมสูงจะเห็นสุสานเป็นรูปกระดิ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม ความอุตสาหะในการอุทิศตนเพื่อชาวจีน การต่อสู้กับการกดขี่ และอิสรภาพของประเทศ
ในทางกลับกันเมื่อเดินเท้าขึ้นบันได 392 ขั้น เป็นระยะทางกว่า 700 เมตรแล้วมองย้อนกลับมา วิวเมืองนานกิงที่อยู่ตรงหน้า
ตามความปรารถนาก่อนตายของ ดร.ซุนยัดเซ็น ที่ต้องการให้ฝังร่างของตัวเองเอาไว้ที่นี่ เพื่อเฝ้ามองความเป็นไปของบ้านเมืองโดยที่ด้านหน้ามีบันไดกว้างเป็นทางขึ้นไปสู่สุสาน
จากสุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น จะมีบริการรถพ่วงไปส่งที่ สุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu) ค่าโดยสารคนละ 10 หยวน ใชัเวลาเดินทางประมาณ 15 นาที และมีค่าเข้าชมคนละ 70 หยวน
สุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu) จะมีสถานที่ท่องเที่ยว สำคัญ 2 จุดคือ สุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu) และ Wengzhong Road (Sacred path to the tomb of the Ming Emperor Hong wu) ทางเดินไปยังสุสานจักรพรรดิหงอู่
จุดนี้เรียกว่า Civil and Military Gate เป็นทางที่มุ่งหน้าไปยัง Sacrificial Hall เป็นอาคารที่ใช้ในการ บวงสรวงจักรพรรดิหงอู่
ทางเดินไปยังอาคารบวงสรวงจักรพรรดิหงอู่ เดินไกลพอสมควร
จากจุดนี้เราเดินผ่านอุโมงขึ้นไปชมวิวได้ แต่ก็ไกล และเหนื่อยพอสมควร ใครขาไม่ดี ไขข้อไม่ดี ไม่ต้องเดินขึ้นมาก็ได้นะครับ ยืนชมด้านล่างก็ได้ แต่ถ้าขึ้นมาแล้วก็จะได้ชมวิวจากด้านบน
จากสุสานจักรพรรดิหงอู่ เราเดินกลับมาที่ทางเข้า แล้วมุ่งหน้าสู่ Wengzhong Road (Sacred path to the tomb of the Ming Emperor Hong wu) เป็นทางเดินของสุสานจักรพรรดิหงอู่ ทั้ง 2 ข้างทางจะประดับด้วยด้วยก้อนหินสลักเป็นรูปแม่ทัพ ขุนนาง และสัตว์ที่มีความหมายเป็นมงคล
เส้นทางเดินสู่ตัวสุสานจะมีรูปสลักหินและทหารขนาบตลอดสองข้างทาง แต่น่าเสียดายมาก ช่วงกบฏไท่ผิงทำให้สมบัติล้ำค่าที่เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ภายในถูกนำออกไปจนหมดจนเกือบจะกลายเป็นสุสานร้าง แต่ภายหลังได้รับการดูแลและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้กลับมาสวยงาม
จุดนี้เป็นส่วนที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันเยอะ สวนสวย ร่มรื่น ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี น่าจะสวยงามกว่านี้ เพราะทั่วบริเวณนี้เป็นต้นแปะก๊วย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคงจะเหลืองอร่ามตลอดทางเดิน
จุดนี้ลุงเด้งป้าไก่ แวะถ่ายรูปกันนาน เพราะมีมุมสวยๆ เยอะมาก
ปิดท้ายโซนนี้ด้วย the Shengong Shengde Stele Pavilion จุดเด่นของอาคารนี้คือ หินแกะสลักรูปเต่ามังกร ที่มีน้ำหนักมากถึง 50 ตัน บนตัวเต่ามังกรจะมีแผ่นศิลาจารึก ขนาดใหญ่
สัตว์เทพเจ้าในตำนานของจีน : เต่ามังกร เต่ามังกร สัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง อายุยืน สุขภาพดี ตั้งใจ มุมานะ นำไปสู่ความก้าวหน้า ความสำเร็จ อย่างมั่นคง ยืนยาว และรวมถึงความเพิ่มพูนด้านทรัพย์สินเงินทอง และป้องกันคุ้มภัยจากสิ่งชั่วร้าย ชาวจีนมีความเชื่อว่า เต่ามังกร เป็นลูกตัวที่ ๙ ของ พญามังกร ซึ่งออกมาเป็นเต่าหัวเป็นมังกร
จากสุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu) เรานั่งรถรับส่งไปยัง วัดหลิงกู่ (Linggu Temple) ค่ารถราคาเดิมคือ คนละ 10 หยวน และค่าเข้าชมวัดหลิงกู่ คนละ 35 หยวน
วัดหลิงกู่ (Linggu Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 14
ด้านหลังวัดมีเจดีย์หลิงกู่ เจดีย์ 9 ชั้น สูง 60.5 เมตร สร้างในปีค.ศ. 1929 เพื่อระลึกถึงเหยื่อสงครามในยุคขุนศึกที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
วิวจากบนเจดีย์หลิงกู่ เดินขึ้นมาก็เหนื่อยเรียกว่าหอบแฮ่กๆ เลย แต่ก็มีวิวให้ได้เฮฮากันพอสมควร
ว่าด้วยเรื่องอาหารการกินภายใน เขาจื่อจิงซาน จะมีร้านขายอาหารท้องถิ่นให้เลือกกินพอประมาณ ร้านส่วนมากจะอยู่ที่บริเวณ สุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น ราคาไม่ได้แพงมาก เน้นร้านที่มีรูปอาหารเป็นดี เราก็ชี้จากในภาพ เพราะพนักงานส่วนมากจะพูดอังกฤษไม่ได้ แต่น้องๆ พนักงานก็พยายามสื่อสารกับเราเต็มที่ครับ
การที่เดินทางมาเที่ยวที่ เขาจื่อจิงซาน หรือ Purpul Mountian ในวันนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 3 แห่งคือ 1. สุสานดร.ซุนยัดเซ็น (Mausoleum of Sun Yatsen) 2. สุสานจักรพรรดิหงอู่ (Tomb of Hong Wu) 3. วัดหลิงกู่ (Linggu Temple) ลุงเด้งป้าไก่ ใช้เวลาเที่ยวแบบช้าๆ ตั้งแต่เช้า - เย็นเลยครับ โดยมาจบที่ประมาณ 1 ทุ่ม แล้วก็เดินทางกลับไปกินข้าวแถวโรงแรม วันนี้บอกเลยว่าเดินเยอะมาก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งใหญ่มาก จากประตูทางเข้าไปถึงสถานที่สำคัญแต่ละแห่งเดินกันประมาณ 1 กิโลเมตรเป็นอย่างต่ำ ไม่รวมเดินถ่ายรูป วกไป-วนมา โดยสรุปวันนี้เดินเยอะจริงๆ แนะนำเตรียมพร้อมร่างกายมาให้พร้อมนะครับ
อาหารเช้าเมือง หนานจิง Nanjing
ที่นี่... หนานจิง (Nanjing) : อาหารเช้าริมถนน เพิ่งกลับมาได้เมื่อคืน เช้านี้มานั่งนึกว่าทริปหนานจิง มีอาหารมื้อใหนที่ประทับใจที่สุด สรุปรวมความแล้ว อาหารเช้ารถเข็น ขายริมถนนกินแบบชาวบ้านเมือง ชิ้นละ 4 หยวน (20 บาท) กินเล่น อร่อยดี มื้อนี้ประทับใจที่สุด!!! แผ่นปอเปี๊ยะย่างบนเตา ใส่ไข่ ซอสพริก ซอสปรุงรส ผัก 4-5 อย่าง ตามด้วยแผ่นแป้งทอด ห่อเป็นแท่ง เคี้ยวสนุกได้ความกรุบกรอบ เค็มๆ เผ็ดๆ อร่อยกว่าที่คาดไว้เยอะเลยติดตามรีวิวการเดินทางของลุงเด้งป้าไก่ได้ที่ http://www.uncledeng.com#nokscoot #AwesomeChina #ลุงเด้งป้าไก่ #จีน #หนานจิง
โพสต์โดย ลุงเด้ง ป้าไก่ กิน เที่ยว ทั่วโลก เมื่อ วันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2017
ข้างๆ โรงแรมยังมีร้านขายเกี๊ยวน้ำ ราคาไม่แพง ตกชามละ 7 หยวน (ประมาณ 35 บาท) แป้งเกี๊ยวนุ่ม หมูอร่อย วันนี้อาหารเช้านอกโรงแรมประทับใจกว่ากินในโรงแรมอีกนะครับ 555
วันนี้ลุงเด้งป้าไก่ ต้องเดินทางกลับเมืองไทย หลังอาหารเช้า เราก็ไป Check-out ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วเดินทางออกท่องเที่ยวแบบบทิ้งทาย
เริ่มต้นด้วย ย่านหนานจิง 1912 (南京1912街区) แหล่งรวมร้านอาหารและความบันเทิงที่มีชื่อเสียงของหนานจิง เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านเหล้า บาร์ ผับต่างๆ แนะนำให้มาช่วงเย็น-ค่ำ แต่ลุงเด้งป้าไก่ มาช่วงเที่ยง มีร้านอาหารเปิดหลายร้าน แต่...ไม่ได้กินซักร้านเลย เพราะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ และไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลยซักคน การเดินทาง สถานี Daxinggong ทางออก 5
สุดท้ายลุงเด้งป้าไก่ มากินอาหารกลางวันกันที่ NanJing Da Pai Dang สาขา DeJi Plaza เป็นร้านอาหารที่เพื่อนๆ ทุกคนต้องมาลองชิมให้ได้เพราะนี่คืออาหารหนานจิง ที่อร่อยมากที่สุดร้านหนึ่งในเมืองนี้ ถ้ามาช่วงกลางวัน ช่วงเย็น คนจะเข้าคิวกันยาวมาก แนะนำมามาช่วงบ่าย จะไม่มีคิว
ร้านนี้มีเมนูเป็นภาษาอังกฤษ มีรูปภาพ และ ราคาชัดเจน บนโต๊ะจะมีหมายเลขโต๊ะ และกระดาษสีเหลือง ให้เลือกใส่หมายเลขอาหารที่เราต้องการ พร้อมระบุโต๊ะที่เรานั่ง แล้วยื่นให้พนักงาน
บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งแบบโรงเตี้ยมจีนโบราณ ดูเก๋ไก๋ และแปลกตาดี
เมนูขายดีตลอดการคือ เป็นอบเกลือ (Jinling Signature Salted Duck) เป็ดเนื้อแน่นเคี้ยวอร่อย เสริฟแบบเย็น เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องลองชิม เพราะหนานจิง เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดอบเกลือ (ถ้าเป็นร้านอื่นจะเค็มมาก) จานนี้ราคา 28 หยวน
เป็ดอบเกลือ จะมี 3 ขนาด เริ่มตั้งแต่ 28 / 56 / 98 หยวน เป็นเมนูที่ต้องมาชิมให้ได้ครับ
อาหารราคาไม่แพงมาก พอๆ กับอาหารตามห้างในเมืองไทย มีตัวเลือกให้เลือกเยอะมาก สั่งง่าย
สถานที่สุดท้ายก่อนเดินทางไปสนามบินคือ ซินเจียโขว แหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในหนานจิง อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ลุงเด้งป้าไก่พักในทริปนี้ Novotel Nanjing Central เราจะได้เห็นวัยรุ่นหนานจิงมารวมตัวกันเดินซื้อของกันตลอดวัน ในย่านนี้มีร้านขายของกินเล่นเยอะส่วนมากอยู่ใช้ใต้ดิน เดินไปทางใหนก็เจอร้านขนม งานนี้อิ่มแปล้ก่อนเดินทางไปสนามบิน
บทสรุปของทริปหนานจิง... ตลอด 4 วันที่ผ่านมากับเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ลุงเด้งป้าไก่ ยังเที่ยวไม่หมดเลย เร็วๆ นี้จะมาอีก เพราะเมืองนี้มีเรื่องให้ค้นหาอีกมากมาย
http://www.nokscoot.com/th