fbpx

30 ที่เที่ยวฟีลซัมเมอร์ ต้อนรับหน้าร้อน เที่ยวได้ทุกฤดู

30 ที่เที่ยวฟีลซัมเมอร์ ต้อนรับหน้าร้อน เที่ยวได้ทุกฤดู

ที่เที่ยวซัมเมอร์ : เที่ยวทั่วไทย ไปได้ทุกฤดู - Traveloka

อากาศร้อนสุดๆ ร่างกายก็ต้องการลมเย็นๆ หาดทราย เสียงคลื่น ธรรมชาติป่าเขา มาช่วยบรรเทาความร้อนกันสักหน่อย

ใครที่มีวันหยุดยาวก็เที่ยวได้ไกลไปให้ถึงภาคใต้ ใครที่่วันหยุดน้อยนิดก็เที่ยวใกล้ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางจนหมดแรงเที่ยวเสียก่อน ใครมองหาที่เที่ยวสวยบาดใจ น้ำทะเลใสแจ๋ว เดินทางสะดวกง่ายดาย ที่พักหลากสไตล์ พร้อมร้านอาหารอร่อยสุดฟิน คาเฟ่สุดเก๋ไก๋ มุมถ่ายรูปจุดปักหมุดเพียบ มาดูกันว่า 30 ที่เที่ยว ซัมเมอร์ เที่ยวได้ทุกฤดู มีที่ไหนกันบ้าง แต่ก่อนจะไปเที่ยวก็อย่าลืมกดเข้า Traveloka ไปจองตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาถูกกันตามนี้ได้เลย

 


จองตั๋วเครื่องบินไปกระบี่

Traveloka : 👉🏻 https://www.traveloka.com/th-th/flight/


บริการรถเช่ากระบี่

Traveloka : 👉🏻 https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

 

 

30 ที่เที่ยวฟีลซัมเมอร์
ต้อนรับน่าร้อน เที่ยวได้ทุกฤดู

 

1. เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี

เกาะล้าน (Lan Island) : อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยาประมาณ 7 กิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง เช่น หาดตาแหวน หาดเทียน หาดนวล หาดแสม ที่สะดวกสบายครบถ้วนทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่พัก และร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์
และมีจุดชมวิวหลายจุด เช่น จุดชมวิวเขานม จุดชมวิวเขายักษ์ หรือที่เรียกว่า “จุดชมวิวกังหันลม” และยังมีหาดแหลมหัวโขน หาดตาพัน แหลมทองหลาง และแหลมถ้ำแร่ ให้สำรวจกันอย่างจุใจ

 

2. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

เกาะสีชัง (Sichang Island) : เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว เที่ยววันเดียว ไปเช้าเย็นกลับก็ได้สบายๆ นอกจากทะเลสวยน้ำใส ยังมีที่เที่ยวหลากหลาย อาทิ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ถ้ำจักรพงษ์ ช่องเขาขาด สะพานวชิราวุธ ประภาคารเกาะสีชัง วัดอัษฎางคนิมิตร และพระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย อีกทั้งสะพานอัษฎางค์ ที่เป็นจุดถ่ายรูปห้ามพลาด

 

3. หาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี

หาดจอมเทียน (Jomtien Beach) : หนึ่งในหาดทรายชื่อดังของเมืองพัทยา ตลอดระะยะทางราว 6 กิโลเมตร ของหาดทรายสีน้ำตาล ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว บรรยากาศค่อนข้างสงบกว่าหาดอื่นๆ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบครอบครัว หรือเล่นกิจกรรมทางน้ำ อย่างเช่น บาบาน่าโบ้ท เจ็ทสกี กระดานโต้คลื่น พาราชูต และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของพัทยาอีกด้วย

 

4. หาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี

หาดเตยงาม (Toei Ngam Beach) : อำเภอสัตหีบ คือ หาดทรายสีขาวสะอาด และน้ำทะเลใสราวกระจก บรรยากาศเงียบสงบ ดูแลโดยกองบัญชาการนาวิกโยธิน เหมาะกับการพักผ่อน สามารถลงเล่นน้ำได้ และยังมีบริการบ้านพักและร้านอาหารให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ในช่วงวันที่ 9 เดือน 9 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 และวันตรุษจีนของทุกปี จะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาแช่ต้วในน้ำทะเลที่หาดแห่งนี้ ที่เชื่อกันว่าเป็น “สะดือมังกร”

 

5. หาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง

หาดแสงจันทร์ (Saeng Chan Beach) : อยู่ใกล้ตัวเมืองระยอง เป็นหาดที่มีรูปร่างแปลกตา อันเกิดจากการสร้างเขื่อนหิน เป็นรูปตัว T เพื่อป้องกันการกัดเซาะของคลื่นลม ก่อให้เกิดชายหาดโค้งเว้า คล้ายรูปเกือกม้ายาวไปจนสุดถนน เป็นภาพที่สวยงามโดดเด่น ตลอดแนวถนนยังเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเล และที่พักหลากหลายราคา ปลายสุดของชายหาดติดกับ “แหลมเจริญ” ที่อาหารทะเลสดๆ ให้ซื้อติดมือกลับบ้านด้วย

 

6. เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง

เกาะเสม็ด (Samet Island) : เกาะเล็กๆ ในทะเลอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เดินทางสะดวก จากท่าเรือบ้านเพใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทุกอ่าวของเกาะเสม็ดโดดเด่นด้วยหาดทรายขาวเนื้อละเอียด น้ำทะเลใสสุดๆ เริ่มตั้งแต่ อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน หาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวช่อ อ่าววงเดือน อ่าวแสงเทียน อ่าวหวาย และ อ่าวกิ่ว เพียบพร้อมด้วยที่พักหลากรูปแบบ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อย ในบรรยากาศที่แตกต่างกันไป

 

7. หาดคุ้งวิมาน จังหวัดจันทบุรี

หาดคุ้งวิมาน (Kung Wiman Beach) : ชายหาดชื่อดังของอำเภอนายายอาม อยู่ห่างจากตัวจังหวัดจันทบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร บรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใส คลื่นไม่แรง เหมาะแก่การเล่นน้ำ มีกิจกรรมทางน้ำหลากหลายแบบให้เลือกสนุกสนาน ที่พักหาง่ายหลายระดับราคา อาหารซีฟู้ดสดใหม่ อีกทั้งยังมีจุดปักหมุดชื่อดัง ทั้งจุดชมวิวเนินพญา ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต และถนนเลียบหาดคุ้งวิมาน ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในภาคตะวันออก

 

8. หาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี

หาดเจ้าหลาว (Chaolao Beach) : เป็นหาดที่ต่อเนื่องจากแหลมเสด็จ ไปถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นหาดทรายที่สวยงามสีน้ำตาลแดง รอบชายหาดมีแนวต้นมะพร้าวและมีสนามหญ้าธรรมชาติ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังตื้น และมีกิจกรรมทางน้ำหลากหลายแบบให้เลือกสนุกสนาน ที่พักหาง่ายหลายแห่ง อาหารซีฟู้ดสดใหม่ การเดินทางสะดวกง่ายดาย

 

9. เกาะช้าง จังหวัดตราด

เกาะช้าง (Chang Island) : มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง” ตั้งอยู่ในเขตแหลมงอบ จังหวัดตราด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ในน่านน้ำอ่าวไทย มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งป่าเขาลำไพร น้ำตก และหาดทรายชายทะเล บรรยากาศมีความแตกต่างกันทั้งแบบเงียบสงบและครึกครื้น การเดินทางง่าย มีความปลอดภัยสูง ความสะดวกครบครันทั้งโรงแรมรีสอร์ท ตลอดจนสถานบันเทิงที่หลากหลายให้แฮงก์เอาท์ชิลๆ

 

10. เกาะกูด จังหวัดตราด

เกาะกูด (Kood Island) : เกาะใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดตราด รองจากเกาะช้าง มีชื่อเสียงในเรื่องธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์อยู่มาก บรรยากาศสงบมีความเป็นส่วนตัวสูง มีหาดทรายขาวสวย น้ำทะเลใสสุดๆ ลงเล่นน้ำได้ และยังมีน้ำตกสวยอย่าง “น้ำตกตลองเจ้า” รวมถึงป่าชายเลนที่สวยงามและสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค ชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมง และชิมอาหารทะเลสดๆ กันอย่างจุใจ

 

11. หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

หาดชะอำ (Cha Am Beach) : อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรีประมาณ 41 กิโลเมตร เป็นหาดทรายสีขาวนวล น้ำทะเลสีฟ้าคราม สามารถลงเล่นน้ำได้ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีกิจกรรมหลากหลายให้สนุกสนานเพลิดเพลิน ทั้งขี่ม้า บานาน่าโบ้ท เจ็ทสกี และปั่นจักรยานชมวิว ครบครันทั้งร้านอาหารทะเลสดๆ และเก้าอี้ชายหาดไว้นั่งรับลมสบายๆ มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปหลายมุมทีเดียว และยังมี "พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน" ให้เยี่ยมชมอีกด้วย

 

12. หาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ชายหาดหัวหิน (Hua Hin Beach) : ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอ่าวไทย ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นสถานที่ตากอากาศแห่งแรกของไทย และมีชื่อเสียงยาวนานจวบจนปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นตรงที่น้ำทะเลใส หาดทรายสวย บรรยากาศเงียบสงบ ตลอดแนวชายหาดยาวประมาณ 5 กิโลเมตร เต็มไปด้วยที่พักหลากหลายสไตล์ ร้านอาหาร และบริการต่างๆ การเดินทางสะดวก และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

13. หมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร (Chumphon Marine National Park) : มีเกาะสวยงามอย่างเช่น เกาะทะลุ เกาะกระโหลก เกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามเล็ก ไฮไลท์สำคัญคือมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติใต้น้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ร.10 แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่มีทั้งแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ทะเล กัลปังหา ฟองน้ำ แส้ทะเล เห็ดทะเล และอันซีน “หอยมือหมี” นอกจากนี้หากโชคดีจะพบกับ “ฉลามวาฬ” ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลชุมพร

 

14. เกาะมัตรา จังหวัดชุมพร

เกาะมัตรา (Mattra Island) : มีอีกชื่อว่า “เกาะมาตรา” หรือ “เกาะตังกวย” อยู่ใกล้กับหาดทรายรี นับเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ีดีที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะชุมพร เพราะมีแนวปะการังน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ และฝูงปลาสีสันชุกชุมอยู่รอบเกาะ มีหาดทรายขาวสะอาด เป็นแหลงที่อยู่อาศัยของ "ปูไก่" ที่ออกหากินในยามค่ำคืนเวลาเดินจะมีเสียงร้องคล้ายลูกไก่ และยังได้ชื่อว่าเป็น "อุทยานหอยมือเสือ" อีกด้วย

 

15. ทุ่งวัวแล่น จังหวัดชุมพร

ทุ่งวัวแล่น (Thung Wua Laen) : ตั้งอยู่ในอ่าวสะพลีของอำเภอปะทิว มีแลนด์มาร์กสำคัญคือรูปปั้นวัวป่า อันเป็นสัญลักษณ์ของหาดทุ่งวัวแล่น จุดเด่นชายหาดโค้งรูปจันทร์เสี้ยวอยู่ที่เม็ดทรายสีขาวนวล ละเอียด นุ่มเท้า ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวราว 5 - 6 กิโลเมตร ต่อเนื่องไปจนถึงชายหาดสะพลี ชายหาดกว้างและลาดเอียง เหมาะแก่การเล่นน้ำและดำน้ำตื้น ที่นี่ยังมีทริปดำน้ำตามหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลชุมพรให้เลือกใช้บริการเพียบ

 

16. อ่าวเขาควาย จังหวัดระนอง

อ่าวเขาควาย (Buffalo Bay) : ชายหาดรูปโค้งสวยงามคล้ายกับเขาควาย ตั้งอยู่ในเกาะกำตก ทางตอนเหนือของเกาะกำใหญ่ อันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอสุขสำราญ บริเวณชายหาดแห่งนี้มีความขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบมาก สามารถเล่นน้ำได้ ที่จุดชมวิวด้านบนเขามองเห็นวิวของ “อ่าวกำตก” และทะเลโดยรอบได้อย่างสวยงาม รวมทั้งมี “ผาตะวันตก” ให้ได้ไปชมวิวสวย ๆ ของพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย

 

17. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

เกาะพยาม (Phayam Isalnd) : เกาะเล็กๆ กลางทะเลอันดามันในจังหวัดระนอง ได้ชื่อว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยบรรยากาศที่สวยงาม และน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก หากโชคดีอาจได้พบกับนกเงือกแบบตัวเป็นๆ มีจุดปักหมุดรายรอบเกาะอย่างเช่น หินทะลุรูปหัวใจ อ่าวเขาควาย อ่าวใหญ่ อ่าวแม่ม่าย อ่าวกวางปีบ และวัดเกาะพยาม จากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ข้ามไปยังเกาะพยามใช้เวลาประมาณ 40 นาที

 

18. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะสมุย (Samui Island) : เปรียบได้ดังสวรรค์กลางอ่าวไทย เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่อุดมสมบูรณ์ มีหาดทรายขาวน้ำทะเลใสชื่อดังหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดเชิงมน หาดบางรักษ์ หาดลิปะน้อย หาดบางผุด หาดแม่น้ำ และหาดหน้าทอน ซึ่งเป็นหาดที่คึกคักมากที่สุดของเกาะสมุย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย ไฮไลท์ห้ามพลาดคือ “จุดชมวิวเกาะลาด” ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินแบบ 360 องศา

 

19. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เขื่อนรัชชประภา (Ratchaprapa Dam) : หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบกว้างใหญ่ ภูเขาหินปูน และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ สมดังฉายา “กุ้ยหลินเมืองไทย” กิจกรรมห้ามพลาดคือ นอนแพชมทิวทัศน์ ดูนกเงือก เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำประกายเพชรและถ้ำปะการัง และล่องเรือชมวิถีชีวิตสัตว์ป่าที่หาชมยากในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง

20. เกาะวัวตาหลับ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะวัวตาหลับ (Wua Ta Lap Island) : เป็นเกาะศูนย์กลางของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคา อยู่ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 32 กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อนริมหาด บนเกาะยังมีถ้ำบัวโบกที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีจุดชมวิวผาจันทร์จรัส ซึ่งจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองและเกาะพะงัน เกาะเต่าได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว

 

21. หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา

หมู่เกาะสิมิลัน (Similan Islands) : ไข่มุกเม็ดงามแห่งท้องทะเลอันดามัน มี 9 เกาะ ทอดตัวเรียงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยันเกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลกเกาะสิมิลัน และเกาะบางู โดดเด่นด้วยภูผาและโขดหิน หาดทรายขาวเนียนนุ่ม น้ำทะเลสีคราม และโลกใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแนวปะการังน้ำลึกมีความหลากหลาย นับเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอย่างแท้จริง

 

22. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

หมู่เกาะสุรินทร์ (Surin Islands) : นับเป็นหนึ่่งในแแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดของไทย อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรีประมาณ 60 กิโลเมตร มีเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ และมีเกาะบริวาร ได้แก่ เกาะรีหรือเกาะสตอร์ก เกาะไข่หรือเกาะตอรินลา และเกาะกลาง หรือเกาะปาจุมบา สามารถพักค้างคืนบนเกาะได้ มีบ้านพักและเต็นท์ของอุทยานฯ ให้บริการ

 

23. หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง (Patong Beach) : ขายหาดชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต ริมชายหาดยาวราว 9 กิโลเมตร ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ที่มีหลายระดับราคาให้เลือก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ เหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนอาบแดด และเล่นกิจกรรมชายหาด ทั้งขี่เจ็ทสกี โดดร่มพาราเซล แล่นเรือใบ หรือเหมาเรือหางยาวไปเที่ยวเกาะต่างๆ มีร้านเก๋ๆ ให้นัั่งชิลตั้งแต่เย็นย่ำยันดึกดื่นอีกด้วย

 

24. หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต

หาดไม้ขาว (Mai Khao Beach) : เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของภูเก็ต แนวหาดต่อจากหาดในยางผ่านสนามบินจรดหาดทรายแก้ว เป็นแหล่งวางไข่่ของบรรดาเต่าทะเล ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และยังมีจักจั่นทะเลอุดมสมบูรณ์มาก ทุกวันที่ 13 เมษายนของทุกปี จะมีประเพณีปล่อยเต่าลงทะเล ที่นี่ยังมีวิถีภูมิปัญญาชาวบ้าน “ฝังทรายรักษาโรค” ให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า

 

25. อ่าวนาง จังหวัดกระบี่

อ่าวนาง (Nang Bay) : ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของกระบี่ ด้านทิศตะวันออกของอ่าวมีถ้ำหินงอกหินย้อยชื่อ “ถ้ำพระนาง” และบริเวณด้านหน้าของอ่าวนางมีกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 83 เกาะ ที่เป็นโขดหินรูปร่างแปลกประหลาด เช่น เกาะหัวขวาน เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะทับและเกาะไก่ อ่าวนางยังเป็นจุดเช่าเรือไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เกาะพีพี และอ่าวไร่เลย์อีกด้วย

 

26. หาดนพรัตน์ธารา จังหวัดกระบี่

หาดนพรัตน์ธารา (Nopparat Thara Beach) : อยู่ติดกันกับอ่าวนาง ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 17 กิโลเมตร เป็นชายหาดเงียบสงบ ร่มรื่น หาดทรายขาวสะอาด ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ตลอดแนวชายหาดมีโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหารให้บริการ และที่นี่ยังมีเรือหางยาวให้เหมาไปเที่ยวแบบ One Day Trip ยังเกาะต่างๆ เช่น เกาะห้อง เกาะไก่ เกาะปอดะ เกาะทับ อ่าวไรเลย์ และทะเลแหวก

 

27. หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

หมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) : อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีทั้งหมด 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน แต่ละหาดมีความงดงามไม่แพ้กัน จะเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือพักค้างคืนก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปัจจุบันหมู่เกาะพีพียังกลายเป็นสวรรค์แห่งผู้ที่ชื่นชอบแมวอีกด้วย

 

28. หาดปากเมง จังหวัดตรัง

หาดปากเมง (Pak Meng Beach) : หาดสุดฮอตของจังหวัดตรัง ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีลักษณะเป็นชายหาดรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การเล่นน้ำ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ชิมอาหารทะเลเลิศรส และชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของท่าเรือปากเมง จุดเริ่มต้นในการนั่งเรือไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดตรัง เช่น ถ้ำมรกต เกาะไหง และเกาะมุก

 

29. หาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง

หาดเจ้าไหม (Chao Mai Beach) : หนึ่งในหาดสวยของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ห่างจากตัวจังหวัดตรัง 59 กิโลเมตร หาดเจ้าไหมมีชายหาดกว้างและน้ำตื้น เหมาะแก่การเล่นน้ำ มองเห็นเกาะลิบงอยู่เบื้องหน้า ส่วนเบื้องหลังเป็นดงสนร่มรื่ย
สุดชายหาดคืออีกด้านหนึ่งของ “เขาเจ้าไหม” ภูเขารูปกระโดงปลาฉลาม ในยามน้ำลงสามารถเดินลัดเลาะโขดหินไปสู่ “อ่าวปอ” ได้ อีกหนึ่งที่เที่ยวที่น่าสนใจคือ “ถ้ำเจ้าไหม” ที่งดงามด้วยหินงอกหินย้อย

 

30. หาดสมิหลา จังหวัดสงขลา

หาดสมิหลา (Samila Beach) : แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองสงขลา มีีรูปปั้น “นางเงือกทอง” เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอยู่บนปลายแหลมสมิหลา และมีรูปปั้น “หนู - แมว” สัญลักษณ์ของเกาะหนูและเกาะแมว เบื้องหน้าหาดสมิหลา หาดทรายขาวละเอียดที่ยาวกว่า 8 กิโลเมตร ร่มรื่นไปด้วยแนวสน ยามเย็นคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาเล่นน้ำ ขี่ม้า และปิกนิก ปูเสื่อรับประทานอาหาร พร้อมชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามจับใจ

เลือกที่เที่ยวถูกใจได้แล้ว อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่โรงแรมที่พัก รวมทั้งบริการรถเช่า และรถรับ - ส่งสนามบินจาก Traveloka กดคลิก > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental ไว้ให้พร้อม แล้วอย่าลืมชุดว่ายน้ำ ครีมกันแดด หมวก และแว่นกันแดดให้พร้อมกันด้วยน้าาา




Leave a comment